มีคำทำนายภัยพิบัติ พระยาธรรมที่ท่านทั้งหลายคิดว่าเชื่อถือได้กันบ้างหรือเปล่า

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย zalievan, 24 กันยายน 2018.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. Sataniel

    Sataniel "วิชชาและวิมุติ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1,490
    ค่าพลัง:
    +2,364
    ไม่มีทางเลยครับ เพราะมันมาจากข้างใน
    ตัวอย่างง่ายๆครับไอ้นี่อวดแลมโบ เราไปอวดบอกหัวใจผมทำจากทองคำครับ คนฟังก็แหยแล้วครับ ขนาดตัวอย่างนี่ยังมองเห็นด้วยเอกซเรย์นะครับ แล้วอริยทรัพย์นี่หนักเลยครับ

    คนเราเค้าชอบ สิ่งที่ทำให้เค้าสำราญใจต่อให้เอาทองเท่าหัวมากองไว้ คนบ้ายังไม่เอาเลยครับเพราะเขาไม่สำราญใจไปกับมัน
     
  2. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,268
    ค่าพลัง:
    +5,219
    ความสุขที่ได้จากการทำดีของเรา มีแค่เราที่รู้ คนอื่นไม่รู้ด้วยหรอก ว่าความสุขที่ได้จากการพอใจที่ได้ทำความดีมันรู้สึกยังไง บอกไปเขาก็ไม่เชื่อ เพราะเขารู้สึกตามไม่ได้ เขาไม่เข้าใจว่าสิ่งที่เราทำมันให้ความสุขกับเรายังไง เพราะคนเรามีความคิดพื้นฐานแตกต่างกัน ดังนั้น ความงามภายใน มันอวดใครไม่ได้จริง ๆ มีไว้รู้เฉพาะตนต่างหาก
     
  3. ดาราแฟร์

    ดาราแฟร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2013
    โพสต์:
    1,660
    ค่าพลัง:
    +2,461
    ครับ อริยทรัพย์นี่อวดกันได้นะครับ.คือ คนที่หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสหรือใบหน้าผ่อง หรือบ่งบอกว่า เป็นคนมีบุญ มีนะครับ คนรวยบุญทานน่ะครับ คือคนรวยอริยทรัพย์
    ที่ท่านกล่าวมานั้น ก็มีส่วนนะครับในสังคมปัจจุบัน เพราะคนเราเป็นเช่นนั้นจริงๆ ตามที่ท่านได้กล่าวไว้ครับ.
     
  4. Sataniel

    Sataniel "วิชชาและวิมุติ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1,490
    ค่าพลัง:
    +2,364
    ใช่ครับไม่ว่าจะ อวด ชอบ ไม่ชอบ สุข ทุกข์ ทั้งหมดคือการ "ยึด"

    ยึดติดกับความเท่จึงต้องพยายามเท่เปลี่ยนทรงผม และอีกมากมาย เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นมองซึ่งมันทุกข์

    ยึดติดกับความรวยจึงดั้นด้นทำงานทั้งชีวิต ซึ่งมันทุกข์

    ยึดติดกับความสุขที่ได้ทำสิ่งที่ชอบแต่ไม่ว่าสิ่งใดๆในโลก มันไม่คงทนจึงทุกข์

    ดังนั้น ความชอบ ความรัก ทั้งหมดเป็นทุกข์(สภาวะที่คงไว้ไม่ได้/กดดัน)

    ดังนั้นคนเราจึงทุกข์ในแบบต่างๆ ซึ่งแต่ละคนทุกข์ไม่เหมือนกัน

    ซึ่งทั้งหมดเป็นกรรม(การกระทำ) ทั้งทางกายและทางจิต โดยปถุชนอยู่กับความทุกข์มาทั้งชีวิตแต่ไม่เห็นความจริง

    คนที่ยึดมโน(ความคิด) ก็ทุกข์เพราะคิดมันเป็นเช่นนั้นของมันนั่นแล

    คนที่ทุกข์เพราะอัตตาจิต ไม่ว่าจะจิตส่งออกหรือสงบตั้งมั่นภายใน ก็ทุกข์เพราะมันเช่นกัน

    พอมีคนไปเตือนก็ไม่ยอมละทิษฏิเพราะตอนนั้นยังไม่ทุกข์. แต่พอวันที่สิ่งที่ยึดถือมั่นกลับมาทำร้ายตน ก็ทุกข์อยู่ผู้เดียวต้องหาอะไรระบายความทุกข์ของตนทั้งๆที่ เขาเลือกที่จะทุกข์เองแท้ๆแปลกไหมละครับ มนุษย์

    Edit : ดังนั้นก็เลิก "ยึด" มันสิครับทั้งภายในภายนอกเลิกยึดสรรพสิ่ง เหลือแต่ รู้อยู่อย่างงั้น สรรพสิ่งมีอยู่ของมันแต่มันไม่ใช่เรา สัจธรรมมีอยู่ตามจริงมันไม่เคยหายไปไหนแต่คนเราตังหากที่ยึดจึงมองไม่เห็นมันเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ตุลาคม 2018
  5. ดาราแฟร์

    ดาราแฟร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2013
    โพสต์:
    1,660
    ค่าพลัง:
    +2,461
    ครับจริงครับ สุขใจ สุขจิต รู้เฉพาะตน ในปัจจัตตัง ของตนครับ.สาธุ.สาธุ.สาธุ.ครับ.
     
  6. ดาราแฟร์

    ดาราแฟร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2013
    โพสต์:
    1,660
    ค่าพลัง:
    +2,461
    ครับ เห็นด้วยกับท่านนะครับ.
    แต่คนเราเป็นโรคจิตชนิดหนึ่ง ที่ไม่มียาใดรักษาได้ครับ.คือ ทุกข์ที่เกิดจากการมีกาย..ใช้กายทำงาน หาเงิน เมื่อได้เงินมา ก็ใช้เงินนั้นบำรุงกาย เลี้ยงกาย รักษากาย.แล้วยังส่งหรือโยนผลของการมีกาย ไปให้ใจ...หรือว่า ใจสั่งมาครับ.
     
  7. Sataniel

    Sataniel "วิชชาและวิมุติ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1,490
    ค่าพลัง:
    +2,364
    สำหรับผม กายก็อยู่อย่างงั้น จิตก็อยู่อย่างงั้น มันไม่ใช่สิ่งเดียวกันแต่แรกแล้ว

    ตัวอย่างเช่น เราทำงานช่วยสังคม เราสุขใจของเราแต่กายเหนื่อย มันก็อยู่อย่างงั้นของมันไม่ใช่หรือครับ แต่ปถุชนชอบเอามันไปปนกันเอง

    ตัวอย่างอีกอย่างเช่นเรารถล้มตอนเราไม่ใช่มัน อาการทุกข์จากแผล ตอนแรกจะไม่เจ็บไม่แสบเลย หรืออาการเดียวกับที่ไม่รู้ตัวเลยว่ามีแผลแต่เมื่อสังเกตุจึงเห็นและเริ่มเจ็บครับ มันเป็นเช่นนั้นของมันนั่นแล แต่สำหรับผู้ฝึกจริงๆคือรู้อยู่เจ็บอยู่แต่มันไม่ใช่เราครับ

    Edit : และที่เป็นแบบนั้นเพราะมันเป็นขันธ์ ที่มีอยู่จริง มันดับไปตามเหตุปัจจัย ซึ่งไม่เกี่ยวกับเราเลย
     
  8. ดาราแฟร์

    ดาราแฟร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2013
    โพสต์:
    1,660
    ค่าพลัง:
    +2,461
    ครับจริงครับ
    จิตและกาย มิใช่ส่วนเดียวกัน..แยกจิตและกายกันได้ทุกๆคน คงสนุก สดใส นะครับ..
     
  9. Sataniel

    Sataniel "วิชชาและวิมุติ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1,490
    ค่าพลัง:
    +2,364
    ใช่ครับ แต่ขนาดแยกได้แล้วผมก็ยังยึดอยู่นะครับเพราะหากเราไม่รู้เมื่อไหร่ อาการดู/สภาวะเพ่ง เพื่อไปเป็นสิ่งต่างๆก็เกิดทันที

    แล้วก็เรียบร้อยครับได้ลงไปเล่นกับกิเลศอร่อยเชียว ครับ เพราะผมยังตั้งมั่นกับมันไม่ได้ยังชอบดูอยู่นั่นแหละครับ ฮาๆ
     
  10. ดาราแฟร์

    ดาราแฟร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2013
    โพสต์:
    1,660
    ค่าพลัง:
    +2,461
    ครับ สักแต่ดูไม่ได้หรือครับ ใจไม่ต้องคล้อยตามที่ตาเห็นน่ะครับ.แบบนี้มันส์กว่าครับ.
     
  11. Sataniel

    Sataniel "วิชชาและวิมุติ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1,490
    ค่าพลัง:
    +2,364
    ยากครับ ดู/เพ่งเมื่อไหร่ก็มีตนเมื่อนั้น หรือจะบอกว่าเพ่งสิ่งใดก็ยึดสิ่งนั้นครับ รับธรรมารมณ์จากสิ่งนั้นๆไม่ว่าชอบ ไม่ชอบ เฉยๆ ดังนั้นหากจะสักแต่ดูได้คงต้องเป็นรู้อย่างเดียวเลยละครับ
     
  12. ดาราแฟร์

    ดาราแฟร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2013
    โพสต์:
    1,660
    ค่าพลัง:
    +2,461
    ครับไม่ยากจนเกินไปนะครับ หากท่านจะมองดูกายตนเอง จนไม่เห็นกายของตนเองเลย แล้วจิตท่านจะไม่ยึดอะไรเลยครับ ท่านเคยมองกายตนเองแบบนี้มั้ยครับ ทำทีละอย่าง รู้ทีละข้อครับ.
     
  13. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,268
    ค่าพลัง:
    +5,219
    สักแต่ร้อน สักแต่หนาว นี่พอทำได้

    สักแต่ปวดสักแต่เจ็บนี่ทำยังไม่ค่อยจะได้ คือได้บ้าง บางกรณี

    สักแต่ดูนี่ยากเลยครับ ไม่ค่อยจะมีอะไรที่ผ่านตาไปเฉย ๆ โดยที่เราไม่ให้ความสนหรือรู้สึกคล้อยตามได้เท่าไรเลย :p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ตุลาคม 2018
  14. Sataniel

    Sataniel "วิชชาและวิมุติ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1,490
    ค่าพลัง:
    +2,364
    เป็นไปไม่ได้ตั้งแต่การดูแล้วครับเพราะการดูมันคือการยึด อัตตาจิตดูข้างนอก = จิตส่งออก. อัตตาจิตดูข้างใน = ฌาน

    และลึกๆไปกายก็ไม่มีแล้วครับ เช่นอรูปฌาน แต่รู้ว่ายังมีตนเพราะยังมี "ความรู้สึก" ว่า ว่างอยู่ หรือ โล่งอยู่ ตามฌานนั้นๆครับ ขณะที่รู้คือสภาวะข้างนอก เช่นเราเพ่งไปที่ไหนหากสติตั้งฐานได้จะรู้ว่า มันมีสภาวะที่ไร้ขอบเขตอยู่ข้างนอกอยู่ ที่รู้ทุกอย่างตามจริงแต่ไม่ปนกับอะไรเลย มันอยู่ทุกที่ทุกเวลามันไม่หายไปไหน

    แต่มันโดนบดบังโดยอวิชชา(ไม่รู้)ได้ เช่นเวลาง่วงหากสติตั้งฐานได้จะพบว่าความรู้สึกข้างนอกกาย จะเปลี่ยนมันทึบมันมืดมัว ไม่เกี่ยวกับสภาวะที่กายเวทนา(ความรู้สึกตัว)เหมือนตกจากที่สูงนะครับ

    ดังนั้นตน = รู้สึก(ธรรมารมณ์) หรือกายธรรมารมณ์ นั่นแหละครับ ซึ่งตัวนี้แลคือตัวจริงของอัตตาจิตที่ว่างจากอารมณ์ต่างๆไม่ได้ หากเราเลิกรู้สึก(ไม่ใช่เอ๋อและเหม่ออันนั้นคือยังรู้ว่าเหม่อแต่สภาวะเลื่อนลอย) แต่เป็นรู้อย่างหมดจด นี่แหละครับถึงไม่ทุกข์แน่นอน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ตุลาคม 2018
  15. Sataniel

    Sataniel "วิชชาและวิมุติ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1,490
    ค่าพลัง:
    +2,364
    ยากจริงๆครับ เพราะผมยังชอบดูอยู่เลย แต่ผมเชื่อทุกรูปนามทำได้หากเดินถูกทางและเพียรไม่หยุด ย่อมถึงที่หมายแน่นอน
     
  16. ดาราแฟร์

    ดาราแฟร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2013
    โพสต์:
    1,660
    ค่าพลัง:
    +2,461
    ครับความรู้สึกในกายมีทั้ง สุขเวทนาและทุกขเวทนา ก็เป็นธรรมดาในธรรมชาติของการมีกายครับ
    การดูก็คือการสัมผัส การรับรู้ทางกายทวาร อยู่ที่ว่า จิตเรานั้นจะวางลงได้เพียงใด อยู่ที่กำลังใจหรือบารมีของแต่ละท่านครับ.
     
  17. ดาราแฟร์

    ดาราแฟร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2013
    โพสต์:
    1,660
    ค่าพลัง:
    +2,461
    ครับใช้สังโยชน์ 10 เข้าช่วยก็คงช่วยในจิตของท่านได้ครับ.แล้วอย่าเผลอให้มีช่องว่างให้วิปัสนูกิเลส 10 ตบกบาลได้นะครับ..หากมีช่องว่างให้วิปัสนูกิเลส 10ตบกบาลได้ก็เสียท่าร่ำไปครับ.
     
  18. ดาราแฟร์

    ดาราแฟร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2013
    โพสต์:
    1,660
    ค่าพลัง:
    +2,461
    ครับท่านก็มีความสามารถทำได้นะครับ
     
  19. Sataniel

    Sataniel "วิชชาและวิมุติ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1,490
    ค่าพลัง:
    +2,364
    วิปัสนูกิเลศเกิดจากผล นะครับ ซึ่งมันเกิดจากการดูอยู่แล้ว และสังโยชน์ทั้ง 10 ก็เกิดจากการรู้เช่นกัน ผมแก้ที่เหตุเลยครับไม่เสียเวลาไปนั่งปรุงจิตตนหรอกครับ แต่บางคนจะทำก็ไม่ว่ากันแล้วแต่จริตคนแลครับ
     
  20. ดาราแฟร์

    ดาราแฟร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2013
    โพสต์:
    1,660
    ค่าพลัง:
    +2,461
    ครับจริงครับ จริตสำคัญครับ แต่ทุกจริต ทุกวิธี วิถีปฎิบัติ หนีไม่พ้น วิปัสนูกิเลส 10 ครับ.
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...