เตรียมตัวให้พร้อม!มันกำลังมา แจ้งข่าวสารการชำระโลก

เรื่องผลกรรม ซึ่งเป็นมวลหยาบ ๆ ของพลังานกรรม ไม่ว่าจะมีคุณสมบัติด้านบวก คือ กรรมดี ด้านลบก็คือกรรมชั่วก็ตาม จะแก้ไขให้มันเป็นกลางหมดสิ้นได้ ก็ต่อเมื่อมนุษย์จะต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์เดิมที่ตนเคยเผชิญมาแล้ว ในภพอดีตชาติซึ่งเคยตัดสินใจผิดพลาดเอาไว้ เพื่อตัดสินใจใหม่ที่ถูกต้องเท่านั้น หรือจะต้องเผชิญกรรมดีด้วยสถานการณ์ดี ๆ ที่ตนเองเคยร้องขอไว้ในภพอดีตชาติ จากการทำความดีแล้วหวังสิ่งตอบแทนนั้นเท่านั้น มันไม่มีวิธีอื่นใดในการแก้ไขผลกรรมหรือทำให้คุณสมบัติของพลังงานกรรมในมิติคู่ขนานเป็นกลางหรือไร้คุณสมบัติกรรมไปได้เลย

- การยอมรับในความผิดพลาดของตนเองด้วยจิตสำนึกที่แท้จริง

- การได้ตัดสินใจใหม่อย่างถูกต้อง

- การเผชิญกับสิ่งดี ๆ ในชีวิตที่ร้องขอไว้

เงื่อนไขทั้งสามประการนี้เท่านั่น มนุษย์จะสามารถล่วงพ้นกรรมเก่านั้นได้

 

อะแฮ่ม! คือ คุณไซก้า เบจิต้า ไม่เคย "ปฏิบัติแบบคุณ JY นะฮับ" ไปบอกเขาแบบนี้ เขาจะทำได้หรือไม่?

"พิจารณาดูเอาเองเลย ว่ากว่าคุณจะอเวคเค่นขึ้นมานิสนึงคุณใช้เวลาปฏิบัติกี่ปี แล้วคุณว่า คุณไซก้า เบจิต้าเขาจะทำได้มะ?" อย่าลากคนไปเที่ยว "ที่ๆตัวเองยังไม่เคยเห็นด้วยตา และไม่มีคนรับรองนอกจาก สิ่งสักสิด(ขอใช้คำนี้เพราะไม่น่าเรียกว่า สิ่งศักสิทธ์)ของคุณ เจวาย และคุณปริญญา" แต่ทางที่คอนเฟิร์มแล้วจากพระพุทธองค์ดันไม่เดิน เข้าใจเพราะ "วิบากมันช่างหนักหนาทางเดินขรุขระไปหมด" ถ้าจะช่วยคนอื่นโดยตัวเองก็ตาบอดแต่มีแค่ผัสสะก็ระวังไว้หน่อยนะฮับ

 

มี อะแฮ่ม!! ด้วย
ไม่ธรรมดาฮับคืนนี้

 

ค่ำคืนนี้ยังอีกยากไกลฮับ เห็นคุณ JY ชอบยำคำสอนซะเปื่อยเชียว เลยขอเข้าไปกระซิบ ขัดซักแปปนึงฮับ

 

ใช่ค่ะ แค่เพียงปราถนาดีกับเขา เพราะว่าการที่มีอาการแบบนี้ จิตยิ้มเคยเป็นมาก่อนและเป็นแบบอย่างเขาด้วย แต่อาการคงไม่มากเท่า คือข้างในพูดตลอดเวลา หยุดพูดไม่ได้ แต่โดยที่เรามีสติรู้เลยไม่หลงไป แต่เพียงแค่เห็นทุกข์ที่เกิดขึ้นและไม่ไหลตามไป เราก็ได้กำหนดรู้ และพยายามปล่อยวาง

จึงมีความคิดว่า สติ+สัมปชัญญะ เป็นธรรมที่มีอุปาการะมาก หากฝึกฝนครองสติกันจริง ๆ แก้ได้ ช่วยได้ เพราะอาจเป็นวิบากรรม เราก็รับผลไป แต่สติไม่ให้เราหลง พอหมดกรรมแล้ว ด้วยความกำหนดรู้อยู่ เราพลิกวิกฤติเป็นโอกาสทำให้เราได้ปัญญาอีกด้วย เห็นกรรมเข้าใจกรรมเลยค่ะ

ทุกอย่างมีทางแก้ แต่เราต้องอดทน ยอมรับ พร้อมกับใช้อุปสรรคเป็นครูค่ะ ถ้าชาตินี้แก้ไม่ได้ ชาติหน้าอาจจะรับกรรมเป็นต่ออีก เพราะกรรมอาจสืบต่อเป็นสันตติก็ได้ คิดอย่างนี้เราจะได้ไม่ประมาท รีบแก้ไขค่ะ

แต่จิตยิ้มมีความคิดอีกอย่างหนึ่ง คือ สิ่งที่เกิดขึ้นกับเขานั้น อาจมีเหตุบางอย่างเพื่อให้เขาได้เรียนรู้ก็ได้ค่ะ

 

อื้อหือ ! อาจมีเหตุบางอย่าง ซะด้วย "ให้เรียนรู้มาครึ่งชีวิตละฮับคุณ JY" เห็นกันเต็มตา แบบไม่ต้องมโนสญาณใดๆทั้งสิ้น(ขออภัยคุณเซก้าด้วยฮับ) และคุณคิดว่า "แก้ได้ใช่ไหม?" ผมตอบเลยว่า "แก้ไม่ได้หรอก ขนาดคุณเองผมก็บอกแล้วให้ทดสอบไปเลย ว่าสนามแม่เหล็กมันเป็นคนละอันกับ ทั้งปิติ สุข เฉย และทุกๆสภาวะเลย" ขนาดคุณเองยังแก้ไม่ได้เลย หากคุณยังแก้ตัวเองไม่ได้จะไปแก้คุณไซก้าให้รู้เห็นตามจริงได้ ยากส์! ฮับ

ผลจากการปฏิบัติหากคุณมีสติจริงคือ "แรงดึงดูดของสนามแม่เหล็กโลกมีอยู่" แต่เราไม่ได้ตกอยู่ใต้อำนาจมัน นี่แหละความจริง และ "มันก็ไม่ใช่เราด้วย" เนี่ยผมทั้งสะกิด ทั้งกระทุ้ง แล้ว คุณยังไม่เห็นตามจริงซักที ทั้งๆที่ความจริงมันอยู่ ณ ตรงนี้และตอนนี้เลยแท้ๆ


"ดังนั้นแล้ว คุณมโนเอาเองว่า การทำแบบนี้หรืออย่างงี้จะทำให้คุณเซก้าหลุดพ้นได้" แต่ความจริงคุณพิมพ์ไปเหอะ ถ้าคุณไม่ได้สอน "วิธีทำ" คุณไซก้าก็เหมือนเดิมแหละ และ "ต่อให้สอนด้วย" หากคุณไซก้าทำไม่ได้ "ก็ไม่ได้รับผลเหมือนกัน" ซึ่งมันจะได้ผลหากคุณไซก้าปฏิบัติตามได้ ซึ่งสิ่งที่ผมพิมพ์มานี้คือ "มโนของผม" แต่ความจริงคือ จะได้ไม่ได้คุณลองสอนดูเดี๋ยวก็รู้ สร้างนิสัยใหม่ กลับมาอยู่กับความจริงบ้างนะฮับ เผื่อชาติไหนๆที่คุณได้รู้ว่าอดีตคุณเคยเมากาวแบบนี้แล้วอยากจะด่าตัวเองแทบไม่ทันเชียวฮับ

 

เคยเป็นค่ะ แต่หายแล้ว
จะมีบ้างก็คือ กำลังคิดอยู่ก็รู้ และขณะที่ผ่านมามีความคิดเกิดขึ้นมาแต่คิดอะไรบ้างก็รู้ว่าไม่รู้หรือ หลงไป ขณะกลับมารู้อยู่ก็หยุดคิด หรือ ความคิดหายไป พอรู้ตัวบ่อย ๆ ความคิดหายไป ก็ฝึกรู้ตัวเพื่อให้ความคิดหยุด และมาอยู่กับตนเอง ดู/รู้สลับกันไปอย่างนี้เรื่อย ๆ จนควบคุมได้เอง ว่าจะคิด หรือ ไม่คิด ขณะที่ไม่ได้ตั้งใจคิดก็รู้ ฝีกมาก ๆ รู้บ่อย ๆ เห็นบ่อย ๆ เดี๋ยวก็เข้าใจความเป็นไปต่างๆ ได้เองค่ะ

 

ขอบคุณค่ะ ตนเองก็ตั้งใจจะไปเรียนรู้กับท่านอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ขอเรียนรู้สิ่งนี้ไปก่อนค่ะ จะได้รอบรู้หลาย ๆ อย่าง

 

5555 ไม่ต้องเศร้าค่ะ ! ใครได้จิตยิ้มไปเรียนรู้ด้วย คนนั้นต้องเก่งขึ้นทุกคน เพราะอุปสรรคจะเพิ่มอีกเยอะ

แต่ว่าคงยากเพราะรู้ตัวเองดีว่า หาคนสอนจิตยิ้มยาก ไม่ใช่ไม่ฟังนะ แต่หลายคนเห็นความรู้ที่มีก็ไม่ใครอยากได้แล้วค่ะ ไม่ต้องกังวลใจไป

 

แยกให้ออกระหว่าง "ความรู้(ที่มาจากความจริง)" และ "ความที่คิดว่ารู้(คิดเอาเองเชื่อเอาเองยังลองทำไม่ได้หรือทำได้แต่เห็นไม่ตรงตามจริง)" และผมไม่ได้กังวลใจฮับ แต่ผมคิดว่าคุณไม่น่าไปไหนได้อีกแล้วเพราะ เชื่อในความคิดซะขนาดนี้ จนกว่าจะออกมาจากกรอบมาอยู่กับความจริงที่มันปรากฏได้ แต่เอาเถอะ ขอให้พระเจ้าสถิตกับท่าน(คำอวยพรนี้คงเหมาะกับคุณ JY นะ)

 

ผมก็บ่นไปตามความคิดที่ผ่านเข้าหัวมาเรื่อยอะ เจอข้อมูลไหนดีๆ แปลกๆ ผมก็เอามาบ่นลงเวบอ่ะ กลัวตัวเองรู้คนเดียวแล้วมันเครียด ก็อาการคล้ายท่านดาราแฟร์เลยอะ ที่เคยบอกว่าวันหนึ่งปวดหัวมากแบบไม่เคยเป็นมาก่อนทำให้มีความสามารถพิเศษสามารถมีญาณติดต่อกับต่างดาวได้ ประมาณนั้น แต่พื้นฐานผมเน้นหนักไปทางเรื่องเกมกดกับการ์ตูนซะส่วนใหญ่ สมองก็คิดไรไม่ออกแล้วจริงๆ มีแต่เรื่องไร้สาระนี่แหละที่จำแม่นอะ อาจเรียกว่าความเพ้อเพราะไข้จากสมองอักเสบรึเปล่าก็เป็นได้ เพราะยุงบ้านผมเยอะด้วย พยายามอยู่อย่างสงบแล้ว แต่ความคิดเจ้ากรรมชอบหาเรื่องมาให้โพสอะ พยายามโพสแต่เรื่องเดิมๆ แล้ว จะหาสมุนไพรมารักษาโรคตัวเองแล้ว ปล่อยเรื้อรังไม่ดีแน่

 

ข้อมูลเหมือนมาจากจิตใต้สำนึกที่มาจากการฝันทุกวันต้องหาทางแก้ไปเรื่อยโดยมาบ่นให้คนในเวบฟัง เพราะคนในบ้านไม่มีใครเข้าใจผมเลย บ่นแบบอ.ดาราแฟร์ไปเลย ไม่งั้นมันคับข้องใจ แล้วจะหายดีขึ้นหน่อย ฝีมือแก๊งยุงแน่มาเป็นพักๆ อะ ต้องการลดประชากรโลกของฝีมือธรรมชาติแน่ๆ

 

ไม่ป่วยตายก็เครียดตายการตายตามธรรมชาติดีกว่าตายโหงล่ะ ผมก็เสี่ยงอยู่เพราะต้องขี่รถทุกวันอะ อาจต้องพลาดสักวันล่ะ ก็ทำใจแล้ว ดวงการงานมีอยู่แค่นี้ เลยได้แต่ลุ้นให้นอนหลับแล้วไปตามฝันสักอันช่วงนี้ ทางเลือกชีวิตมีไม่มากก็เห็นใจด้วย

 

ผมมีจิตวิญญาณของซาโตชิแต่คุณมีร่างคูขนานของพิกาชู ทางเดียวที่คุณจะรีเซ็ทตัวเองคือพยายามฝึกวิชาเนตรวงแหวนเป็นขั้นแรก หลังจากนั้นต้องตามหาจิ้งจอกเก้าหางในใจให้เจอ

 

อั๊ยย่ะ
แล้วยังงี้ลุงแมวคงต้องปลดล๊อคตัวเองด้วยหรือเปล่าเนี่ยะ จมอยู่กับอะไรก็ยังมิอาจรู้ตัวเอง
หรือโดน V2K เข้าแล้วก็ไม่รู้เช่นกัน555

 

ลุงแมวได้ฟังธรรมที่ถูกต้องจากในเว็บแล้วนี่ฮับ ถ้าอยู่กับเดอะเรียลสติได้ ก็ได้ละมั้งฮับ. V2k จะรบกวนไม่รบกวน เราอยู่ของเรา เราบ่ใช่มันฮับ

 

มีสติ คือ อย่างไร

1.รู้เท่าทันอารมณ์รู้สีกนึกคิดของตนเสมอ
2.รู้ควบคุมอารมณ์รู้สึกนึกคิดของตนได้อย่างสิ้นเชิง
3.รู้เท่าทันเงื่อนไขด้านลบจากสิ่งภายนอกเสมอ
4.รู้จักอดทน อดกลั้น และรู้ให้อภัยได้ทุกเมื่อ
5.รู้ตัดสินใจอย่างรอบคอบทุกครั้งก่อนลงมือทำ
6.รู้กระทำแต่สิ่งที่ถูกต้อง ดีงาม เหมาะสมเสมอ

 

การทำบุญที่ยิ่งใหญ่

ต้องทำด้วยจิตสำนึกแห่งการ "ให้" 6 ข้อ คือ

1.ให้โดยไม่เลือกคน สถานที่ และเวลา
2.ให้แต่สิ่งที่มีประโยชน์และมีคุณค่า
3.ให้โดยไม่คาดหวัง หรือตั้งเป้าหมายไว้ล่วงหน้าว่าจะได้รับสิ่งใดเป็นรางวัลตอบแทน
4.ให้อย่างเต็มใจและตั้งใจจะให้
5.ให้โดยไม่ต้องรอให้ใครร้องขอ
6.ให้โดยไม่จดจำว่าได้ให้สิ่งใด แก่ผู้ใด แต่จะบันทึกไว้เพียง ความสุขใจ อันเป็นสัจธรรมซึ่งเกิดจากการให้เท่านั้น

 

ถ้ามนุษย์ยังเข้าถีงความเป็นจริงของตนเอง ซึ่งเป็นความลับเบื้องหลังมิติโลกไม่ได้ มนุษย์ย่อมไมมีวันยกระดับจิตวิญญาณผู้เป็นแก่นแท้ในเครื่องยนต์แห่งกรรมของตนเอง ให้คืนสู่คุณสมบัติสุญญตาอันเป็นคุณสมบัติแต่จิตเดิมของตนได้เลย

 

สติในระดับสามัญก็ทำหน้าที่ได้ระดับ
ที่กล่าวไว้นั่นแหล่ะฮับ
ก็จัดว่าหรูแล้ว
ฮับ
แต่สติสามารถทำหน้าที่ในระดับ Extra จะมีความสามารถทำให้จิตเข้าถึงสภาวะที่เป็น
ความว่างคือว่างว่างเปล่า
ไม่มีอาการปรุงแต่ง
ไม่รับ
อารมย์ พอใจไม่พอใจ ชอบหรือชัง
เหลือแต่แค่" รู้ " เท่านั้น
แถมยังหยั่งรู้
โดยไม่อาศัยข้อมูลหรือเหตุผล
ได้อีกด้วย
ฮับ