"พระเจ้าจักรพรรดิราช"

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย เกษม, 23 มกราคม 2011.

แท็ก:
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. one14300

    one14300 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    153
    ค่าพลัง:
    +212
    รู้ไว้... ไม่เสียหลาย
     
  2. toyhonda

    toyhonda เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    542
    ค่าพลัง:
    +1,782
    อืมมมม!...อะไรจะเกิดเราเตรียมรับมือทุกเมื่อ..! แต่เราก็ไม่ได้ประมาทกับชีวิตที่เหลือ ยังคงมีทาน ศีล ภาวนา ถึงจะไม่ได้มากนักแต่ก็เก็บสะสมเป็นเสบียงบุญไปเรื่อยๆ
     
  3. dangsticker

    dangsticker เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    304
    ค่าพลัง:
    +1,590
    รอชมดีฝ่า......อิอิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มกราคม 2011
  4. nuaiswat

    nuaiswat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2007
    โพสต์:
    234
    ค่าพลัง:
    +248
    หวังเพียงได้อยู่ีในยุคอันรุ่งเรืองนั้นครับ
     
  5. มุจจลินท์

    มุจจลินท์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +98
    สาธุ อนุโมทนาบุญด้วยนะ ก็คงต้องตรวจบารมีประจำตัวพระเจ้าจักรพรรดิ์กันล่ะ อันมีแก้วทั้ง ๗ ประการ ถ้ามีการกล่าวอ้าง แต่กระนั้นก้ไม่สำคัญที่เราท่านทั้งหลายรวมใจให้เป็นหนึ่งในพระธรรม อันเป็นคุณงามความดีที่พระพุทธองค์ได้ตรัสกล่าวไว้ เป็นสามัคคีธรรม เพื่อต่อสู้ในทุกๆอย่างที่เป็นภัย
     
  6. gold-nippan

    gold-nippan Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +45
    จากที่ได้ยินได้ฟังได้อ่าน มาจาก ครูบาอาจารย์ก็ดี หลวงพ่อฤษีลิงดำก็ดี ต่างก็มีความเห็นว่า พระศรีอาริยเมตไตร บำเพ็ญบารมีเต็มเปี่ยมแล้ว และ รออยู่ที่สวรรค์ชั้นดุสิต
    ดั้งนั้น ความเห็นของ เจ้าของกระทู้ น่าจะ มาจาก คัมภีร์นอกศาสนาพุทธ มากกว่านะครับ เพราะ การกล่าวอ้างทั้งหลาย เอา คริส เอาพรามห์ฮินดู มาปนเป กันมากมาย จนสับสน ทำให้ผู้ที่กำลังศึกษาอยู่สับสนจะกลายเป็น มิจฉาทิฐิไปนะครับ
    (ต้องขออภัย นะครับ เพื่อให้ข้อมูลที่แตกต่างนะครับ)
    พระศรีอาริยเมตไตรจะลงมาตรัสบนโลกมนุษย์ ก็ต่อเมื่อ แผ่นดินนี้สูงขึ้นอีกหนึ่งโยชน์ หรือ เมื่อมนุษย์ในช่วงนั้น มีอายุขัย แปดหมื่นปี (ปัจจุบัน100 ปี หรือ 75ปี)

    ส่วนพระเจ้าจักรพรรดิ์ นั้น จะมีในเกือบทุกช่วง ยกเว้นช่วงที่มีพระพุทธเจ้า ซึ่งก็หมายถึงมหาราชาผู้ครองโลกเพียงผู้เดียว และปกครองด้วยศีลห้า มี ของวิเศษคู่บุญเจ็ดอย่าง เช่นม้าแก้ว นางแก้ว จักรแก้ว ขุนพลแก้ว เป็นต้น เมื่อมหาจักพรรดิ์เกิด จะมีสมบัติ ต่างๆ ผุดขึ้นมาจากใต้ดิน ทั่วมุมโลก เป็นของเจ้าจักพรรดิ์ เพียงผู้เดียว เช่นกัน จักรแก้ว จะมีอานุภาพในการตัดคอศัตรูโดยอัตโนมัติ เมื่อมีคนคิดร้ายหรือเป็นอริราชศัตรู โดยไม่มีอาวุธใดๆต้านทานได้เลย

    ดั้งนั้น น่าจะมีการเข้าใจผิด คิดว่าพระเจ้าจักรพรรดิ์ คือพระศรีอาริย์เมตไตรเพื่อมาโปรดชาวโลกก็เป็นได้

    แต่ ผู้ที่จะเป็นพระมหาจักรพรรดิ์ นั้น คือ ผู้ที่รักษาศีลอุโบสถมาก่อน ดังนั้น เราหลายคนในเวปนี้ ก็ มีสิทธิ์ ที่ได้เป็นพระมหาจักรพรรดิ์เช่นกัน

    ปล (ต้องขออภัย จขกท นะครับ เพื่อให้ข้อมูลที่แตกต่างนะครับ)


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มกราคม 2011
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    พระพุทธเจ้ากับพระเจ้าจักรพรรดิ์ มาเกิดในช่วงเวลาเดียวกันได้ครับ

    [​IMG]

    ในช่วงที่พระศรีอริยเมตไตรย์สัมมาสัมพุทธเจ้า จะเสด็จลงมาบังเกิดบนโลกนั้น จะตรงกับสมัยของพระเจ้าจักรพรรดิ พระนามว่า “สังขะ”-แห่งเกตุมดีนคร แต่ก่อนที่เราจะลงรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องราวในยุคของพระศรีอริยเมตไตรย์ เรามาศึกษาเรื่องราวของพระเจ้าสังขบรมจักรพรรดิแบบคร่าวๆกันก่อน

    ที่มา พระศรีอริยเมตไตรย์สัมมาสัมพุทธเจ้า ตอนที่ 29 พระเจ้าสังขบรมจักรพรรดิ

    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ (พระราชพรหมยาน) ได้เคยบอกลูกศิษย์ที่ตึกรับแขกเมื่อคราวหนึ่งท่านกล่าวกับคณะศิษย์ที่ตึกรับแขกว่า... ขณะนี้ "พระเจ้าจักรพรรดิ" ได้ลงมาเกิดในประเทศไทยแล้ว และเกิดเป็นคนหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่ มีเชื้อทางฝั่งลาว ตอนเกิดนั้น มารดาท่านฝันว่าได้แหวนทองจากเทวดา และตั้งชื่อลูกของท่านว่า "เทพ"

    พระศรีอาริยเมตไตรยท่านมีบารมีเต็มแล้วก็จริง แต่ท่านก็ยังเป็นพระมหาโพธิสัตว์ จึงต้องมีหน้าที่ดูแลคุ้มครองพระพุทธศาสนาในกึ่งพุทธกาลนี้ด้วยครับ ท่านจึงได้อธิษฐานจิตลงมาเกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิราช ปกครองคนบนโลกนี้ทั้งโลกให้ดำเนินไปในหนทาง แห่งคำสอนของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันนี้ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มกราคม 2011
  8. Aonkub

    Aonkub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    76
    ค่าพลัง:
    +194
    อยากรู้ครับว่าทราบได้อย่างไรว่าขณะนี้พระเจ้าจักรพรรดิยังเป็นมนุษย์สามัญชนคนธรรมดาอยู่ ขอโทษนะครับ ไม่ได้ลบหลู่นะครับ ตัวผมเองเชื่อเรื่องนี้ครับ เพียงแต่อยากทราบเท่านั้น
     
  9. แมวธนู

    แมวธนู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    327
    ค่าพลัง:
    +856
    แจ่ม !!!! อย่างนี้ซิชาวพุทธ

    มีสติ อยู่กับปัจจุบัน ดีที่สุด

    ตนแล เป็นที่พึ่งแห่งตน
     
  10. แมวธนู

    แมวธนู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    327
    ค่าพลัง:
    +856
    อันนี้ก็แจ่ม อีกแระ

    "ถ้าเรียนชั้นประถมยังไม่ค่อยจะผ่าน อย่าเพิ่งพูดถึงระดับด๊อกเตอร์เลย"
     
  11. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    ...แจ่ม ...แจ่ม !!!! .....​
     
  12. thol

    thol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    257
    ค่าพลัง:
    +837
    ก่อนที่พระเจ้าจักรพรรดิจะเปิดเผยท่านออกมาเราก็ควรทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด
    อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ไม่มีใครคาดการณ์ได้ถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์
    ขอให้ทุกๆคนอยู่ในความไม่ประมาท ส่วนตัวผมนั้นจะพยายามทำวันนี้ให้ดีที่สุด
    ขอให้องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านทรงคุ้มครองปวงชนชาวพุทธให้ผ่านเหตุการณ์ร้ายๆไปได้ด้วยดีด้วยเถอะครับ
    ทำดีบางครั้งอาจไม่มีใครเห็นแต่พระพุทธองค์ท่านเห็นครับ ส่วนตัวผมนั้นแม้ไม่ใช่คนดีเท่าไรแต่ก็จะพยายามทำความดีครับ
     
  13. SP6580

    SP6580 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    518
    ค่าพลัง:
    +1,551
    หลังจากนั่งสมาธิได้นิดหน่อยในคืนหนึ่ง ได้นอนหลับฝันไปว่าตัวเองไปโผล่อยู่ที่วัดสะแก ประมาณเที่ยงๆ และได้เห็นหญิงสาวคนนึง ใส่ชุดขาวนั่งที่โต๊ะหินภายในวัดคนเดียว เลยเดินเข้าไปคุยด้วย เธอก็คุยด้วยดี หลังจากนั้นสักครู่ได้มีคณะคนกลุ่มหนึ่งประมาณ 20 กว่าคน ใส่ชุดถือศีลขาวเดินผ่านมาทางผม
     
  14. SP6580

    SP6580 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    518
    ค่าพลัง:
    +1,551
    คนที่เดินนำหน้าเป็นผู้ชายสูงราว 180 กว่าๆ ล่ำสัน คมคายหน้าตาจัดว่าดี ผมออกสีดอกเลา ดูมีเสน่ห์แปลกๆ ขณะที่ผมมองเขาอยู่ เขาก็มองมาที่ผมอยู่เหมือนกัน ด้วยอำนาจบางอย่างทำให้ผมต้องหลบสายตา จนเขาเดินมาใกล้ ผู้หญิงที่ผมคุยด้วยก็ลงนั่งกับพื้นดินยกมือไหว้เขาจนเขาเดินผ่านไป ผมก็ถามคนเดินท้ายขบวนว่าเขาคนนั้นเป็นใคร ก็มีคำตอบมาว่า อาจารย์น่ะสิ คนที่ผมถามก็เดินจากไป ปล่อยให้ผมงงต่อ ผมก็ถามผู้หญิงที่คุยด้วยแต่แรก เธอบอกว่าอาจารย์นี้คือ ผู้ที่มาดูแลประเทศไทยต่อหลังจากภัยพิบัติสงบลง ท่านมาจากต่างประเทศ เป็นศิษย์วัดสะแกคนนึงเหมือนกัน ที่ท่านกลับมาเพราะท่านรู้ตัวแล้วว่าท่านคือใคร มีหน้าที่อย่างไร เท่านั้นผมก็ตกใจตื่นเกือบใกล้รุ่ง นำมาเล่าสู่กันฟังเผื่อใครมีวาสนาไปเจอท่านมาบ้างแล้ว มาเล่าให้ผมฟังบ้างน่ะครับ
     
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เป็นความเชื่อส่วนตัวของผมเองครับ ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ผมก็ไม่ได้ห้ามนะครับ เพราะจากข้อมูลที่ผมได้ศึกษาค้นคว้ามา บ่งบอกไว้อย่างชัดแจ้งว่าพระศรีอาริย์โพธิสัตว์ จะจุติจากสวรรค์ลงมาเกิดเป็นพ่อค้าข้าวสาร(อย่างนี้จะไม่เรียกว่าสามัญชนคนธรรมดาได้อย่างไร) ลองอ่านข้อมูลที่ผมได้ค้นคว้ามาได้ดังนี้ครับ

    ตำนานเมืองฝางและอ่างสลุงเชียงดาว

    เรื่องในตำนานเมืองฝางและอ่างสลุงเชียงดาว มี ๓ ตอน โดยแต่ละตอนจบในตัวเอง

    ตอนที่ ๓ กล่าวพระพุทธเจ้าได้เสด็จไปที่ถ้ำเชียงดาว ทำนายว่ายักษ์ที่รักษาถ้ำจะได้เป็น พระยาธัมมิกราช องค์ที่ ๓ มีอายุ ๒๐๐ ปี โดยองค์แรกเกิดที่เมืองปาฏลีบุตร องค์ที่ ๒ เกิดในเมืองหงสาวดี องค์ที่ ๓ เกิดในเมืองเชียงดาว องค์ที่ ๔ เกิดในเมืองอังวะ องค์ที ๕ เกิดในเมืองอโยธิยาและได้กล่าวถึงพระอรหันต์ ๕๐๐ องค์ เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานแล้วก็นำเอาพระบรมสารีริกธาตุมาไว้ที่ดอยอ่างสลุงก็เลยได้ชื่อว่า อ่างสลุงเชียงดาว มีพระยาอินทร์ เทวดา มาเนรมิตมหาเจดีย์ทองคำไว้บรรจุพระธาตุ ต่อจากนั้นก็มีพระยาอินทร์ พระยาพรหม พระยานาค มาสร้างพระพุทธรูปทองคำองค์ใหญ่ไว้ในถ้ำ ประดับตกแต่งไว้สวยงาม ในถ้ำแห่งนี้มีทางแวะไปสถานที่ต่างๆ ได้ หลายแห่ง และได้กล่าวถึงวิธีปฏิบัติเมื่อจะเข้าไปชมถ้ำตามที่ต่างๆ ซึ่งหากปฏิบัติไม่ถูกก็จะกลับออกมาไม่ได้

    ส่วนในเมืองเชียงใหม่ เมื่อศาสนาใกล้จะถึงสามพันปี(พ.ศ.2500-พ.ศ.3000) บ้านเมืองจะเกิดความเดือดร้อนวุ่นวาย หาเชื้อพระวงค์ที่จะขึ้นเป็นกษัตริย์ปกครองเมืองมิได้ ในเวลาต่อมายักษ์ที่รักษาถ้ำเชียงดาวอยู่นั้นจะเกิดมาเป็น พระยาธัมมิกราช โดยเกิดมาเป็นพ่อค้าข้าวสาร พระอินทร์จะมาอัญเชิญขึ้นไปทำพิธีราชาภิเษกบนสวรรค์ จากนั้นจึงลงมาทำพิธีอีกครั้งหนึ่งในเมืองเชียงดาว ส่วนศรีอาริยวงศ์กลางศาสนา (จากบันทึกทางพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน)

    เมื่อพระศรีอาริย์มาปรากฏเป็นพระบรมจักรพัตราธิราช ในท่ามกลางพระพุทธศาสนานี้ พระอิศวรผู้เป็นเจ้าประกาศิตให้เทวดาลงมารักษาพระราชวังถึง 50,000 องค์ ยักษ์อีก 50,000 ตน นาคและครุฑก็จะเป็นมิตรกัน และจะมารักษาปราสาทราชวังด้วยเป็นจำนวนมาก เชื้อพระวงศ์ของพระศรีอาริย์ จะอุปถัมภ์ยกยอพระพุทธศาสนาสืบๆ ต่อกันไปจนอีก 1,309 ปี คือลุ พ.ศ. 3850 ปีเศษ จึงสิ้นเชื้อสายพระศรีอาริย์คนสุดท้ายมีนามว่า “ เสารรัญญา” หรือ “ พยาเสารราช”( ศรีอาริยวงศ์ 1,000 ปี ในเล่มนี้ ไปตรงกับแผ่นดินของพระเจ้า ซึ่งพระเยซูจะกลับมาปกครองโลกอยู่ 1,000 ปีเหมือนกัน เรียกว่า Millennium ภาษาอังกฤษเรียกว่า ศรีอารยะ (Sriaraya) ภาษาบาลีเรียกว่าสิริอริยะ (Siriariya) แม้กระนั้นก็มีเทวดา, นาค, ครุฑ เฝ้าปราสาทราชมณเฑียรอยู่มาก

    เมื่อพ้นจากพญาเสารราชไปแล้ว พระเสื้อเมืองทรงเมืองทั้งหลาย ก็ละทิ้งบ้านเมืองหลบหนีเข้าป่าไปหมดสิ้น ดังเช่นในยุคปัจจุบันนี้ เพราะอธรรมทั้ง 3 และ อคติทั้ง 4 เข้าครอบงำสันดานประมุขและรัฐบุรุษ จนบ้านเรือนเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า มหาภัย 10 ประการ ก็คุกคามประชาชนพลเมืองอยู่ทั่วไป ครั้นแล้วก็จะบังเกิดพญาธรรมิกราชองค์ที่ 4 มายอยกพระพุทธศาสนาอีก และจะเกิดที่นครศรีอยุธยา (กรุงเก่า) จะทรงเกียรติขนาดอโศกราช หาใช่บรมจักรพัตราธิราชดั่งเช่น พระศรีอาริย์ในท่ามกลางพุทธศาสนานี้ไม่

    ในตำนานมันดาเลของพม่านั้นกล่าวว่า พระราชวังของพระศรีอาริย์ธรรมิกราชนั้นจะมีประตู 80 ประตู จะมีฝูงเทวดาและยักษ์รักษาแน่นขนัด จะเข้าออกได้แต่มนุษย์ที่มีศีลธรรมอันดีงามเท่านั้น ปราสาทราชวังนั้นจะสว่างรุ่งโรจน์ด้วยแสงแก้วมณีโชติ กลางคืนจะกลับกลายเป็นกลางวัน จะผิดกันก็แต่ว่า ความสว่างของแสงแก้วนั้นจะเย็นตาเย็นกาย ไม่ร้อนระอุเหมือนแสงอาทิตย์ในเวลากลางวันอย่างธรรมดา

    พิษณุเทพบุตร จะไปนำเอาผลมะม่วงกาซอ (ผลไม้โรทันตี) จากสวรรค์มาถวายพระศรีอาริย์ธรรมิกราช เมื่อเสวยแล้วรูปร่างก็กลับกลายเป็นหนุ่มเหมือนอายุ 20 เศษ จะมีพระมหาเถระ 24 รูป เดินทางมาจากทิศต่างๆ เพื่อชมบารมีพระศรีอาริย์ธรรมิกราช พระศรีอาริย์ธรรมิกราชจึงเอามะม่วงกาซอ (มะม่วงลอกคราบ) เข้าถวายพระผู้เฒ่าทั้ง 24 รูป พระผู้เฒ่าทั้งหมดเมื่อฉันแล้วก็ง่วงนอน และหลับไปด้วยความสบาย ครั้นตื่นขึ้นแล้วผิวพรรณก็กลับกลายเป็นหนุ่มไปหมดทั้ง 24 รูป รู้สึกว่ากระกระเปร่าแข็งแรงขึ้นอย่างผิดธรรมดา

    พระศรีอาริย์จึงเอาเมล็ดมะม่วงลอกคราบนั้นปลูกลงในดินริมปราสาท ก็พลันงอกงามเป็นต้นเป็นลำและแตกกิ่งก้านสาขาขึ้นในทันที ประกอบด้วยช่อและดอกออกผลเต็มไปหมด โดยไม่ต้องรอเวลาหรือฤดูกาลใดๆ เลย ฝูงมนุษย์ก็จะไหลมาเทมาเพื่อบริโภคมะม่วงลอกคราบอันวิเศษนั้น ครั้นแล้วคนแก่ก็จะกลายเป็นหนุ่ม คนที่มีผิวพรรณไม่งามก็จะงาม คนอ่อนแอก็จะแข็งแรงไปทั่วทุกรูปทุกนาม โลกจะถึงความเป็นสวรรค์ทั้งในด้านผิวพรรณและโภคทรัพย์ ฯลฯ และจะมีต้นไม้กาลปพฤกษ์ทิพย์ถึง 1,600 ต้น (โรงทาน) ทั่วทั้งโลก

    อนึ่ง พระมหานครอันบรมสุข จะได้ถูกก่อสร้างตึกรามขึ้น 36,000,000 หลัง จะเป็นที่อยู่ของพลเมืองที่เป็นสัมมาทิฏฐิทั้งสิ้น และว่าในยุคนั้น จะมีผู้หญิงมากผู้ชายน้อย เพราะผู้ชายไปตายในกองทัพถึง 3 ใน 4 ส่วน ผลสุดท้ายผู้ชายคนเดียวจะมีภรรยา 9 คน 10 คน ผู้หญิงจึงหาสามีที่โสดๆไม่ได้ง่ายนัก จริงเท็จอยู่กับตำรา (แจ้งอยู่ในใบลาน 3-4 ผูก)

    ที่มาhttp://atcloud.com/stories/41730

    องค์พระศรีอาริยเมตไตรยต้องบุรพกรรม

    สมัยหนึ่ง ที่องค์พระศรีอาริยะเมตไตยต้องบุรพกรรม มาเกิดเป็นนางยักษ์ รูปร่างร้ายอยู่ในป่า องค์พระ โคตมะกำลังบำเพ็ญบารมีอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเอราวดี ด้วยสัพพัญญุตญาณทราบว่า นางยักษ์นี้ได้ก่อสร้างบารมี 30 ทัศมามากมาย แต่เพราะผลกรรมที่กระทำกาเมสุมิจฉาจารกับภรรยาผู้อื่น จึงมาเกิดเป็นนางยักษ์ชาตินี้ พระองค์จึงเสด็จมาโปรด นางยักษ์แลเห็นลักษณะอันประเสริฐ จิตเลื่อมใสก้มลงกราบ เมื่อองค์พระโคตมะตรัสเทศนาพระธรรม นางยักษ์ปลงใจเด็ดขาด ตัดเอาเต้านมทั้งสองถวายเป็นพุทธบูชา อานิสงส์นางยักษ์ตัดเต้านมทั้งสองมากระทำสักการบูชาพระตถาคตครั้งนั้น ส่งผลให้นางยักษ์พ้นจากอิตถีเพศ คือ ท่านจะเกิดเป็นหญิงแต่เพียงชาติเดียวเท่านั้น นางยักษ์นี้ได้สร้างพุทธวิริยบารมีมาถึง 80 อสงไขยกัป คือ ปรารถนาอยู่ในใจถึง 36 อสงไขยกัป ลั่นวาจาว่า จะเป็นพระพุทธเจ้าอีก 28 กัป

    และ ในกาลก่อน พระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งทรงพระนามว่า "มหุตชินสีห์" ได้ทรงพยากรณ์ว่า" ท่านจะเวียนว่ายตายเกิดสืบต่อไปอีก 16 อสงไขยกัป ก็จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ทรงพระนามว่า พระศรีอาริยะเมตไตย ในอนาคตกาล" และในท่ามกลางพระพุทธศาสนาของพระพุทธโคดม ท่านจะมาช่วยสืบอายุพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองไปจนตลอด 5,000 ปี

    กาลต่อมา ในชาติหนึ่งที่[SIZE=+0]พระศรีอาริยะเมตไตย[/SIZE]มาเกิดเป็นมนุษย์ชาวไร่ กระทำไร่เลี้ยงชีวิตอยู่ริมภูเขา ตักกะคีรี ซึ่งเป็นภูเขาเดียวกับที่ฝูงลิงถ่ายอุจจาระใส่ผ้าอาบของพระพุทธเจ้านั้นเอง ขณะที่[SIZE=+0]พระศรีอาริยะเมตไตยเป็น[/SIZE]กระทาชายวิ่งไล่ขับฝูงลิงที่ลงมากินแตงโมในไร่นั้น ก็เลยวิ่งเลยถลำไปเหยียบเอาพระฉาย คือ เงาของพระพุทธเจ้าโดยไม่ทันสังเกต เมื่อเหลียวมาพบพระโคตมะ จิตเลื่อมใสศรัทธา จึงนำเอาแตงโมมาถวาย 7 ลูก แต่มีลูกหนึ่งที่รอยหนูกัดเป็นโพรง กุศลผลทานครั้งนั้นส่งผลให้ท่านเกิดเป็นพระยาจักรพรรดิราชาธิราชอันประเสริฐ ในท่ามกลางศาสนาของพระตถาคต และจะช่วยสังคายนา ชำระสะสางพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองสืบต่อไป ศาสนาของพระพุทธโคดมจะปกแผ่ไปทั่วทั้งเมืองคนขาว เมืองคนเทา ปกแผ่ไปทั่วโลก ส่วนวิบากกรรมที่ท่านได้เหยียบเงาพระตถาคตนั้น เมื่อท่านได้มาเกิดเป็นมนุษย์จะมีรูปร่างหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่ บนศรีษะก็จะมีรอยแผลเป็น ดุจดังรอยหนูเจาะแตงโม แต่ในภายหลังท่านจะมีผิวพรรณวรรณะ สวยสดงดงามดั่งเทพบนสวรรค์ เพราะได้บริโภคของทิพย์ของพระอิศวรเทพเจ้า

    ตามบุรพกรรมสัญญาที่ มาระหว่างองค์พุทธที่ 4 และองค์พุทธที่ 5 ทำให้องค์[SIZE=+0]พระศรีอาริยะเมตไตย[/SIZE]โพธิสัตว์ จะต้องมาช่วยสืบอายุพุทธศาสนาของพระพุทธโคดม จวบจนครบพุทธกาลดั่งนี้แล และในระหว่างกาลแห่งการรักษาศาสนจักร อาณาจักรแห่งองค์พุทธที่ 4 จะอยู่ในนามว่า "ภายใต้รังสีพระศรีอาริยะเมตไตรย" เพราะอำนาจสิทธิแห่งวงศ์ศาสนจักรยังเป็นขององค์พุทธที่ 4 แต่เพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น

    อดีตกรรม

    เอ กัง สะมะยัง ในสมัยหนึ่งพระพุทธโคดมได้เสด็จเลียบมาถึงแม่น้ำสายหนึ่ง ในแคว้นสุวัณณภูมิ ซึ่งไหลผ่าน ภูเขาตักกคีรี พระองค์ลงสรงน้ำเรียบร้อยแล้ว ก็เอาผ้าอาบตากไว้บนฝั่งแม่น้ำ จึงเสด็จขึ้นประทับอยู่บนภูเขาลูกนั้น มีลิงแม่ลูกอ่อนฝูงหนึ่งอุ้มลูกออกจากชายป่า พลันก็ถ่ายอุจจาระของมันลงบนผ้าอาบของพระองค์ ซ้ำเอาหว่านเล่นเสียเลอะเทอะ คงเหลืออยู่ชายเดียว ณ บัดนั้นก็ได้มีนกยางปอน (นกยางขาว) ตัวหนึ่งบินมาจับลงที่ศรีษะของแม่ลิงตัวหนึ่ง แล้วก็เหลียวหน้ามองไปโดยรอบทั่วทุกทิศ ในทันใดรัศมี ซึ่งเป็นสีต่าง ๆ ได้พุ่งปราดออกจากพระเขี้ยวทั้งสี่ของพระพุทธเจ้า พระอานนท์ผู้อุปัฏฐาก จึงทูลถามเหตุการณ์อันประหลาดนั้น พระองค์ทรงตรัสพยากรณ์ว่า:-

    " ดูก่อนอานนท์ ผ้าอาบของตถาคต ได้แก่ ศาสนาที่ตถาคตวางไว้ ลิงแม่ลูกอ่อนที่มาถ่ายมูลเลอะเทอะหมดถึง 3 ชายนั้น ได้แก่ กองทัพ ซึ่งจะมารบราฆ่าฟันกันตาย เหลือที่จะคณานับ ศาสนาของตถาคตจะเสื่อมทรุดไปถึง 3 ใน 4 ส่วน คงค้างอยู่แต่เพียงส่วนเดียว และนกยางขาวที่บินมาจับหัวแม่ลิงนั้น คือ พระศรีอาริยะเมตไตรยโพธิสัตว์ จะมาปราบอธรรม และช่วยสืบอายุศาสนาของตถาคต เริ่มตั้งแต่ 2,500 ปีขึ้นไป จนครบ 5,000 ปี"

    "พระศรีอาริยเมตไตรยโพธิสัตว์กับตถาคต ได้สร้างกรรมไว้ในอดีตชาติ" พระองค์ทรงเล่าให้พระอานนท์ฟังต่อไปว่า

    "อันชาติหนึ่งสองเราสหายสนิท ช่วยกันคิดเอาบัวมาอธิษฐาน เพื่อเสี่ยงทายบารมีพุทธกาล ให้บัวบานบอกแจ้งเป็นผู้ใด"

    ในชาตินั้นเราทั้งสองจึงเอาดอกบัวมาคนละดอก เข้าไปอธิษฐานในพระวิหารว่า ถ้าใครจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าก่อน ก็ขอให้ดอกบัวของผู้นั้นบานก่อน

    ครั้น วันรุ่งขึ้นพระตถาคตได้เข้าไปดูดอกบัวนั้น แต่ยังไม่ทันสว่างแจ้ง เห็นดอกบัวของพระศรีบานก่อน ด้วยความที่อยากเป็นพระพุทธเจ้าก่อนพระศรี จึงลักเปลี่ยนดอกบัวของพระศรีมาไว้ที่พระตถาคต สับเปลี่ยนกันเสีย

    "บัวของน้องบานแล้วนะพี่จ๋า สัมพุทธาน้องย่อมได้ไปก่อนแน่ แต่ไฉนบัวในมือเดี๋ยวหุบเดี๋ยวก็แบ พุทธยังไม่เที่ยงพุทธยังไม่แท้น่าอายจริง"

    ฝ่าย พระศรีนั้นเขาฌานแก่ รู้ว่ามีการสับเปลี่ยนบัว จึงทำนายว่า "โอ! สหายท่านจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าก่อนเราจริง แต่ทว่าฝูงมนุษย์ยุุคนั้นจะเป็นคนขี้ลักขี้ล่าย และใช้เงินดำ เงินแดง เงินกระดาษกัน อย่างพร่ำเพรื่อ มนุษย์จะไม่ซื่อสัตว์ต่อกัน จะทุจริต คิดมิชอบนานาประการ พระสงฆ์องค์เณรพุทธบริษัทในศาสนานั้น จะหาความเที่ยงแท้แน่นอนไม่ได้ เดี๋ยวบวช เดี๋ยวสึก เดี๋ยวหุบ เดี๋ยวแบดังบัวดอกนี้"

    เพราะกรรมที่พระพุทธโคดม ได้สับเปลี่ยนบัว ถึงแม้ว่าพระองค์และเหล่าพระอรหันตสาวกจะเข้าพระนิพพานไปแล้วก็ตาม แต่กรรมนั้นยังติดอยู่ในศาสนาของพระองค์ ตราบเท่าทุกวันนี้ ที่เหลือไว้แต่สมมติสงฆ์ในศาสนาของพระองค์ จึงรู้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง ศาสนาสามส่วนก็ถูกพราหมณ์ ยักษ์ และมารเอาไปครอง เหลือจริงเพียงส่วนเดียวเท่านั้น ข้อวัตรปฏิบัติจึงถูกปนเป็น จนแยกแยะไม่ออก ผู้คนเกิดมาสมัยหลัง จึงไม่เข้าใจทางปฏิบัติที่ถูกมรรค ถูกผล ถูกนิพพานในฝ่ายสัมมาทิฏฐิแต่ส่วนเดียว นั้นคืออะไร

    พระพุทธโคดมทรงเล่าอดีตกรรมจบลง พร้อมพยากรณ์เหตุการณ์สืบไปอีกว่า

    " เมื่อพระศรีอาริยะเมตไตรยโพธิสัตว์จะมาช่วยสืบอายุพุทธศาสนา ในกึ่งพุทธกาลของพระตถาคตนั้น จะมีสรรพวัตถุทั้งหลายบังเกิดขึ้นแก่โลก อย่างแปลกประหลาดเหลือจะคณานับ ทั้งเสื้อผ้าอาภรณ์นานาชนิด ก็จะไม่ได้ปั่นและทอด้วยมือ เหมือนในศาสนาของตถาคตจะมีแต่ผ้าเนื้อบริสุทธิ์ ฝูงมนุษย์จะไม่ติเตียนว่า เป็นขี้หูขี้ตาเขาเท่าจะวัดวา (วัดหลาและเมตร) ก็จะมีในยามนั้น แม่หญิงจะนุ่งซิ่นเสื้อลายเหมือนหนังแย้ จะนุ่งเสื้อผ้าแขนกุดขาก้อม หญิงชายจะนุ่งผ้าเป็นอย่างเดียวกัน จะว่าชายก็บ่จริง จะว่าหญิงก็บ่แม่น แม่หญิงจะหวีผมปกหน้า จะใส่ต่างหูยาวง้ำหน้า พ่อชายจะใส่หมวกหุ้มหน้า สิ่งที่ไม่รู้จะได้รู้ สิ่งที่ไม่พบเห็นก็จะได้เห็น พร้อมด้วยบุรพนิมิตอันชั่วร้ายต่าง ๆ ก็จะบังเกิดขึ้นแก่โลกมากมายยิ่งนักดังนี้

    1. ราชภัย ท้าวพระยาจะบังคับเบียดเบียนพลเมือง
    2. โจรภัย จะบังเกิดโจรผู้ร้ายปล้นสะดมทั่วไป
    3. อัคคีภัย ไฟจะไหม้บ้านเมืองไม่ขาดสาย
    4. อสุนีบาต ฟ้าจะผ่าสัตว์และคนล้มตายบ่อย ๆ
    5. เมทนีภัย แผ่นดินจะไหวสะท้านและแยกออกจากกัน
    6. วาตภัย จะเกิดลมพายุพัดพาบ้านเมืองพินาศ
    7. อุทกภัย น้ำท่วมบ้านเรือนและเรือกสวนไร่นา
    8. ทุพภิกขภัย จะเกิดข้าวยากหมากแพงและอดอาหาร
    9. พยาธิภัย จะเกิดโรคระบาดคนและสัตว์ล้มตาย
    10. สัตถภัย จะรบราฆ่าฟันกันล้มตายร้ายแรง

    ในขั้นสุดท้าย แผ่นดินจะไหวเดือนละหลายครั้ง จะมีสุริยคราสและจันทรคราสบ่อยครั้ง จะเห็นผีพุ่งไต้บ่อยๆ ดาวหางและแสงประหลาดจะบังเกิดให้เห็นไม่ขาดระยะ จะได้ยินเสียงดังในอากาศคล้ายระเบิดและปืนใหญ่ แร้งกาจะบินลงเกาะบ้านเมืองอย่างผิดธรรมดา ฝูงมนุษย์จะเดือดร้อนและขวักไขว่กันไปมา จะบังเกิดสงครามฆ่าฟันกันตายเหมือนใบไม้ร่วงไปทุกหนทุกแห่ง ครั้นแล้วก็ถึงกาลที่องค์พระเมตไตรยโพธิสัตว์จะปรากฏเป็นที่พึ่งแก่โลกตาม บุรพกรรมสัญญา

    ที่มา http://tevisho.com/index.php?option=com_content&view=article&id=80&Itemid=332
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มกราคม 2011
  16. PITINATTH73

    PITINATTH73 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    2,991
    ค่าพลัง:
    +9,624
    ญาติธรรมทุกๆท่านครับ โปรดตระหนักถึงตัวเองและควรหมั่นสร้างคุณงามความดีให้มากๆ
    เพื่อภพภูมิที่ดีในเบื้องหน้านี้ครับ
     
  17. camrymax

    camrymax นายองครักษ์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    468
    ค่าพลัง:
    +1,257
    อนุโมทนาด้วยนะครับ....

    ณ ภพนี้ ชาตินี้ เอง..

    ผมเองอยากได้ฟังธรรมจากพระศรีอริยเมตไตร สักครั้งครับ..

    อนุโมทนา...สาธุ
     
  18. nuttyty

    nuttyty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    198
    ค่าพลัง:
    +579
    ขออนุโมทนาด้วยครับ

    ขอให้ทุกคนปฏิบัติดี คิดดี ทำดี
    ให้ทานง่าย ๆ คือ ให้โอกาส ให้อภัย ให้ชีวิต และให้ทาน
     
  19. อัสติสะ

    อัสติสะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    184
    ค่าพลัง:
    +392
    อดีตผ่านไปแล้ว
    อนาคตยังมาไม่ถึง
    อยู่กับปัจจุบันดีที่สุด
     
  20. Kinglondon

    Kinglondon Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2010
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +70
    อนุโมธนาเจ้าของกระทู้ ครับผม ^_^
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...