การอธิษฐานวัตถุมงคลด้วยการใช้อภิญญาสมาบัติของหลวงปู่ปาน

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย นโมพุทธายะ๕, 30 มกราคม 2022.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,756
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,138
    ค่าพลัง:
    +70,534
    อธิษฐานวัตถุมงคลด้วยการใช้อภิญญาสมาบัติ

    #พระหลวงพ่อปาน มีหัวใจสำคัญอยู่ที่ผงวิเศษ ๓ ชนิด ที่นำมาบรรจุในองค์พระ คือ
    ๑. #ผงวิเศษหัวใจสัตว์ ท่านจะกระทำในอุโบสถ โดยนั่งสมาธิเข้าสมาบัติเขียนอักขระเลขยันต์หัวใจสัตว์ต่างๆทั้ง ๖ ชนิด ที่ท่านเห็นในนิมิตแล้วลบผงวิเศษหัวใจสัตว์นี้ออกมาเป็นผงวิเศษ
    ๒. ผงวิเศษจากยันต์เกราะเพชร โดยท่านจะนั่งสมาธิเขียนยันต์เกราะเพชรบนกระดานชนวน แล้วชักยันต์ขึ้นมาเสร็จแล้วลบผง
    ๓. ผงสุดท้ายคือผงวิเศษ ๕ ประการคือ ผงอิทธิเจ ผงปถมัง ผงมหาราช ผงตรีนิสิงเห และผงพระพุทธคุณอันเป็นสูตรของสมเด็จพระพุทธาจารย์(โต)พรหมรังสี วัดระฆัง ท่านเขียนบนกระดานชนวนและลบผงเช่นกัน ทำให้เมื่อรวมกันแล้วมีพุทธคุณเอกอนันต์ ใช้งานสารพัดอย่างเป็นเลิศ เรียกว่าเป็น ‘กฤตยาคมแฝด’
    *****************************************************
    #ในเมื่อหลวงพ่อปานเรียนตำราแล้ว ต่อมาก็เริ่มทำพระ การทำพระของหลวงพ่อปานบรรดาพุทธบริษัท บรรดาลูกหลานทั้งหลายควรจะทราบว่า แบบพระของท่านไม่ค่อยจะเหมือนกันนัก เพราะคนแกะพิมพ์พระน่ะหลายคนด้วยกัน เวลาบรรจุผงก็เหมือนกัน หลวงพ่อ ปานทำผงไว้มาก ทำพระไว้ถึง ๘๘๕ ปีบ ท่านนำมาแจกแก่บรรดาสาธุชน ๔๔๐ ปีบ แล้วก็บรรจุไว้ในเจดีย์องค์ใหญ่ที่ท่านสร้างไว้ ๔๔๐ ปีบ
    #พระนี่มีอานุภาพแปลก คือว่าพระของท่านหรือของต่างๆ ที่ท่านเอาออกแจกก็ตาม ท่านไม่เคยบอกว่าของๆ ท่านเป็นของคงกระพันชาตรี อันนี้ต้องจำกันไว้ด้วย ใครที่จะรับของๆ หลวงพ่อปานแล้วจงทราบว่าหลวงพ่อปานไม่เคยรับรองเรื่องคงกระพันชาตรี เพราะเรื่องนี้ถ้าใครรับรองคนนั้นก็โง่ มันเป็นกฎแห่งกรรม คนที่เหนียวๆ ยิงไม่ออกฟันไม่เข้า แต่ก็ทะลุทุกราย ถ้ากรรมชั่วมันเข้ามาถึงแล้วกรรมที่เป็นบาปมันก็เปิดโอกาสให้ คนหนังเหนียวนี่ตายเพราะอาวุธนับไม่ถ้วน
    #ทีนี้พระของหลวงพ่อปานก็มีอยู่ว่าเป็นพระหมอ ท่านเขียนไว้อย่างนั้นนะ แก้โรคทุกอย่างใครจะเป็นโรคอะไรก็ตาม เอาพระใส่ลงไปในขันนี้ แล้วอาราธนาเอาทำน้ำมนต์ วิธีอาราธนาก็ไม่ยากบอกว่าขอบารมีพระพุทธเจ้าและสัตว์พาหนะ ถ้าพระองค์นั้นเป็นหนุมาน หรือว่าพระเม่น พระไก่ พระนกกระจาบ พระปลา พระครุฑ ก็ตามก็ออกชื่ออย่างนั้น ขอจงทำน้ำมนต์นี้รักษาโรคนั้นให้หายโดยฉับพลัน ว่ายังงี้ ๓ จบ แล้วก็ใช้น้ำมนต์รดชาวบ้านได้

    #นี่เป็นวิธีใช้พระของท่าน ถ้าหากว่าถูกงูกัด ตะขาบ แมงป่องกัด หรือสัตว์ที่มีพิษกัด ให้เอาพระจุ่มน้ำแล้วอาราธนาบารมี พระพุทธเจ้าและสัตว์พาหนะให้ดูดพิษนั้นออกให้หมด แล้วเอาหลังพระแปะลงไป เอาศีรษะท่านขึ้นมาทางหัวเรา จะถูกกัดที่ข้อเท้าอะไรก็แปะได้ แต่ครั้นแปะลงไปแล้วพระจะเริ่ม ดูดพิษ ขณะที่พิษยังไม่หมดพระจะติดแน่นอยู่ จะเดินไปก็ไม่หลุด แต่ก็ต้องระวังๆ เพราะไปถูกกัดในป่าที่สัตหีบ เอาพระของหลวงพ่อปานไปด้วย ฉันเคยแจกให้ไป แกก็ไปปิดเข้า ปรากฏว่างูตัวนั้นมันเป็นงูเห่า เพราะลงไปในหนองน้ำเล็กๆ จึงถูกงูกัด คนถูกงูกัดเป็นนายทหาร บรรดาทหารก็พากัรวิดน้ำปรากฏว่ามีงูเห่าอยู่ตัวเดียวเลยทุบตาย พิษที่มันแสดงออกเป็นอาการของพิษงูเห่า แต่ว่าในที่สุดเมื่อเอาพระแปะเข้าพระก็ติดแน่นสนิท พอพิษหมดพระก็หล่น

    ทีนี้พอถึงเวลาทอดกฐินเดือน ๑๒ ปี นั้นฉันอยู่วัดบางนมโค คณะทหารเรือแกแห่กันมารับพระประมาณ ๔-๕ ร้อยคน ถามว่ามาทำไป บอกว่ามาขอรับพระแก้งูกัด แกรู้อยู่คนเดียว เป็นอันว่าพระ ของหลวงพ่อปานใช้ในทางค้าขายก็ได้ ทางทำนา ทางเมตตามหานิยมก็ได้ กันผีกันสางก็ได้หมดแต่ว่าเรื่องคงกระพันชาตรีท่านไม่รับรอง จำกันไว้ให้ดีนะ

    #ตอนนี้มาว่ากันถึงวิธีสร้างพระ วิธีสร้างไม่ยาก แต่ว่าวิธีทำผงพระซียากมาก #การทำผงพระประเภทนี้ต้องมีสมาบัติแล้ว ก็จำได้หรือยังว่าพระสัตว์มี ๖ ชนิด คือ รูปหนุมาน รูปไก่ รูปครุฑ รูปปลา รูปเม่น แล้วรูปนกกระจาบ ถ้าหากว่าจะทำพระนกกระจาบ ก็ต้อง #เอาผ้าขาวมาเสกให้เป็นนกกระจาบๆ #ก็จะกางปีกขึ้นจะมีคาถาอยู่ในปีก #แล้วก็ลอกคาถาในปีก มาทำเป็นผง จะทำพระหนุมานก็ต้องเสกผ้าขาวให้เป็นหนุมาน เป็นพระไก่ พระครุฑ พระอะไรก็เหมือนกัน แล้วสัตว์ต่างๆ ก็จะแสดงอาการนั้นๆ ให้คาถาปรากฏที่ตัวของตัวเอง แล้ว ก็นำคาถานั่นแหละมาทำผง เวลาทำผงต้องนั่งปลุกเสกอยู่ในโบสถ์ ต้องอดข้าว ๗ วัน แล้วก็ ๗ วัน ๗ คืน ออกจากที่ไม่ได้ ต้องเข้าสมาบัติกันเต็มที่

    #วิธีนี้หลวงพ่อปานเคยให้ฉันเรียนเหมือนกัน ฉันเรียนได้แต่ทำไม่ได้ หลวงพ่อปานท่านแพ้ฉันอยู่อย่าง แพ้ตรงที่ท่านหยังผ้าขาวมาเสกให้เป็นหนุมาน เป็นไก่ เป็นครุฑ มันไม่เป็น มันเป็นผ้าขาว แสดงว่าการเสกของฉันมันเป็นนิจจังจริงๆ ไม่มี การเปลี่ยนแปลง นี่เป็นการวัดความสามารถระหว่างพระอภิญญากับพระเนื่องในวิชชา ๓ สำหรับฉันน่ะจะเรียกว่าพระวิชชา ๓ ตรงๆ ยังไม่ได้ ต้องเรียกว่าพระเนื่องในวิชชา ๓ เพราะในขณะนั้นยังไม่ครบถ้วนบริบูรณ์ ยังเป็นส่วนโลกียวิสัย จึงยังเรียกว่าพระวิชชา ๓ ไม่ได้


    พระวิชชา ๓ กับพระอภิญญา ๖ #มีความสามารถต่างกันมากในด้านฤทธิ์นะ ในด้านความสามารถต่างๆ ข้อปลีกย่อย นี่เล่ากันให้ฟังว่าวิธีทำพระของหลวงพ่อปานน่ะทำยาก การแจกพระสมัยนั้นหลวงพ่อปานท่านแจกน่ะแจกจริงๆ แล้วก็ไม่ใช่แจกเฉยๆ เวลาแจกหุงข้าว เลี้ยงคนมารับพระเสียอีกด้วย คนมากันมืดฟ้ามัวดิน แจกกันขนาดหนัก แจกกันคนละองค์ แต่คนรับก็แสนฉลาด มารับหัวแถวแล้วก็เดินไปยืนท้ายแถวว่ากันอย่างนั้น วันแรกเสียท่าวันต่อมาหลวงพ่อไม่เอาอย่างนั้น แล้ว เอาใหม่ เริ่มฉลาด พอแจกแล้วเอาปูนแดงที่เขากินกับหมากนี่ป้ายที่เสื้อ คนรับเขาก็ฉลาดอีก มันออกไปข้างนอก กลับเสื้อข้างนอกเข้าข้างในเสีย กลับมารับใหม่ นี่ไอ้เรื่องจะหนีคนโกงน่ะมันหนียาก หนียากจริงๆ
    #การแจกพระของท่านแจกกันอยู่ถึง ๑ เดือน คนมารับเต็มไปหมด แล้วท่านก็หุงข้าวเลี้ยง ทำกับข้าวเลี้ยง เรื่องสตางค์นี่ใครเขาจะให้หรือไม่ให้ท่านไม่รู้ ตอนนี้ฉันสู้ท่านไม่ได้แน่ ฉันไม่กล้าไปวัดบารมีของท่าน ฉันทำอะไรเวลานี้ฉันแจกฟรีเหมือนกัน ใครมาขอฉัน ฉันก็แจกฟรี ใครจะให้สตางค์ฉันก็เอา ถ้าไม่ให้ฉันก็ไม่ทวงเขา แล้วก็ไม่ว่าไม่ตำหนิติเตียน ไม่คิดนึกด่าในใจด้วย เต็มใจให้ แต่ว่าอีตอนหุงข้าวเลี้ยงนี่ทำไม่ได้แน่ เพราะฉันหากินเองไม่ไหวแล้วนี่ หากินเองไม่ได้ ต้องพี่งลูกหลานกิน ถ้าไปหุงข้าวเลี้ยงคนพวกนั้นเข้าอีกลูกหลานก็จะเบื่อ เออ มันแย่นะ สู้กันไม่ได้ แต่ฉันก็ไม่อยากสู้ท่านมันเทียบกันไม่ติด เอาละ เมื่อว่ากันถึงวิธีแจกพระ เสร็จไปนะ นี่เป็นเรื่องเบ็ดเตล็ด การทำพระอย่าลืมนะว่าหลวงพ่อปานต้องใช้สมาบัติ ๘ ต้องอาศัยรูปฌาน พระของท่านจึงมีความหมายมาก
    เวลานี้พระหลวงพ่อปานมีมากกว่าสมัยทีท่านอยู่ ทั้งนี้เพราะอะไร ก็เพราะว่าเวลาท่านตายแล้วนี่ชื่อเสียงท่านโด่งดังมาก ก็มีคนช่วยทำมาก เวลานี้คนช่วยทำเยอะ รูปพระของหลวงพ่อปานนั้นทำไม่ยาก แล้วคนก็ทำได้ง่ายๆ เขาก็ช่วยกันทำ ช่วยกันแจก เป็นการประกาศบารมีของพระพุทธเจ้า และประกาศความดีเด่นของหลวงพ่อปาน หรือว่าเขาจะหวังเป็นอาชีพ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน เรื่องนี้ขอผ่านไปนะ


    จาก #ประวัติหลวงพ่อปาน
    โดยพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง

    J8gsND8-xQjvqiudcDuVfEseSdBGWHdeE&_nc_ohc=KFvaHHc6E6cAX-l18jw&_nc_zt=23&_nc_ht=scontent.fbkk22-2.jpg
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...