เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 14 กุมภาพันธ์ 2024.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,827
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,570
    ค่าพลัง:
    +26,413
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,827
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,570
    ค่าพลัง:
    +26,413
    วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๗ กระผม/อาตมภาพ ในฐานะคณะกรรมการดำเนินงานขับเคลื่อนโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ด้วยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา (หมู่บ้านรักษาศีล ๕) ระดับหน (หนกลาง) ต้องเข้าประชุมประจำปี เพิ่งจะเสร็จสิ้นการประชุมตอนนี้เอง

    สำหรับการประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมสามัญ ครั้งที่ ๑/๒๕๖๗ คณะกรรมการดำเนินงานขับเคลื่อนระดับหนทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นหนกลาง หนเหนือ หนตะวันออก และหนใต้ ล้วนแล้วแต่เดินทางมาร่วมประชุมกันที่วัดไร่ขิง (พระอารามหลวง)

    เมื่อไปถึง กระผม/อาตมภาพควักกระเป๋า ๑๐,๐๐๐ บาท ถวายท่านเจ้าคุณชรัช (พระสิริจริยาลังการ, ดร.) เจ้าอาวาสวัดตานีนรสโมสร (พระอารามหลวง) รองเจ้าคณะภาค ๑๘ ซึ่งเป็นเพื่อนฝูงกันมาตั้งแต่สมัยท่านยังเป็นพระมหาชรัช อุชุจาโร ป.ธ.๖ อยู่ที่วัดช้างให้ จังหวัดปัตตานี แล้วเมื่อช่วงเวลาคับขัน มีการเข่นฆ่าพระภิกษุไปมากมาย ท่านยอมไปเป็นเจ้าอาวาสวัดตานีนรสโมสร (พระอารามหลวง) ก็เจริญก้าวหน้าขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ท่านจะทำหนังสือ "ประวัติวัดในจังหวัดปัตตานี" แล้วขอความร่วมมือมา กระผม/อาตมภาพจึงควักกระเป๋าถวายท่านไป ๑๐,๐๐๐ บาท

    นอกจากนั้นยังได้ปรารภกับท่านไปว่า หาอะไรที่มหาอุดคงกระพันพกเอาไว้บ้าง เพราะว่าตอนนี้รู้สึกว่าทางปักษ์ใต้จะเริ่มแรงขึ้นมาอีกแล้ว ท่านเจ้าคุณชรัชก็บอกว่า "เป็นการต่อรองกันทางการเมือง ต้องการสร้างพาวเวอร์ของตนเองขึ้นมาเพื่อต่อรอง" แต่กระผม/อาตมภาพเห็นว่า "ต่อให้เป็นการต่อรองทางการเมืองอย่างไร แต่ที่เจ็บที่ตายนั้นก็เจ็บจริงตายจริงทั้งนั้น ไม่ใช่เล่นละคร ดังนั้น..จึงควรระมัดระวังเอาไว้จะดีกว่า"

    แล้วก็ควักกระเป๋าอีก ๕,๐๐๐ บาท ร่วมกับท่านเจ้าคุณประเทือง - พระเทพเสนาบดี (ประเทือง อาภาธโร ป.ธ.๔) เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี ร่วมใน "โครงการบ้านพระทำ" ซึ่งเป็นการสร้างบ้านให้แก่บุคคลต่าง ๆ ที่จังหวัดลพบุรี ไม่ว่าจะเป็นบิดามารดาของพระสังฆาธิการที่มีฐานะยากจน หรือว่าบุคคลที่มีฐานะยากจนก็ตาม

    โดยที่ตัวเองเหลืออยู่แค่ ๑,๕๐๐ บาทติดตัว ท่านเจ้าคุณประเทืองยังรวมหมับอีก ๑,๕๐๐ บาทนั้นไปด้วย ประมาณว่า "วัดท่าขนุนหาเงินง่ายอยู่แล้ว ขอผมเถอะ..!" ท่านเจ้าคุณหลวงพี่ของกระผม/อาตมภาพเล่นหากินง่าย ๆ แบบนี้ ทำเอากระผม/อาตมภาพก็ไม่รู้ว่าจะทำหน้าอย่างไร ?!
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,827
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,570
    ค่าพลัง:
    +26,413
    เมื่อเข้าประชุมตามเวลา โดยที่พระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง เป็นประธานในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งในระหว่างที่มีการนำเสนอแผนการดำเนินงานและยุทธศาสตร์ประจำปี ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ องค์ประธาน ได้ปรารภว่า "เรื่องของแผนยุทธศาสตร์ต่าง ๆ นั้น เมื่อคุณเขียนเสร็จและยื่นนำเสนอ ก็ล้าสมัยเสียแล้ว ถ้าเป็นไปได้ก็คืออยากจะให้ทำงานกันไปเลย"

    กระผม/อาตมภาพก็เห็นจริงตามที่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ องค์ประธานว่ามาเหมือนกัน
    แต่เนื่องจากว่าการทำงานของคณะกรรมการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ นั้น ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ก็ต้องใช้งบประมาณของทางราชการเข้ามาอุดหนุน เรื่องของแผนงานและโครงการต่าง ๆ จำเป็นต้องมีให้ชัดเจน ไม่อย่างนั้นแล้วก็จะเสนอไปของบประมาณไม่ได้..!

    พระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ องค์ประธานจึงปรารภว่า ความจริงในเรื่องของโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ นั้น พระทุกวัดก็ทำได้อยู่แล้ว โดยแทบไม่ต้องใช้งบประมาณอะไรเลย เนื่องเพราะว่าผู้ที่มาเป็นเจ้าอาวาสนั้น ส่วนมากก็จะต้องมีบารมี เป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านในพื้นที่อยู่แล้ว แค่ปรารภว่าให้ทุกคนร่วมใจกันดำเนินงานด้านหมู่บ้านรักษาศีล ๕

    ถ้าหากว่ารักษาศีล ๕ ได้ไม่ครบ ๕ ข้อ ก็เอาอย่างที่พระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺญมหาเถร ป.ธ.๙) อดีตผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช วัดปากน้ำภาษีเจริญ ได้ปรารภไว้ ก็คือ "รักษาให้ได้สักข้อก็ยังดี"

    แล้วก็เป็นยุทธศาสตร์ที่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ องค์ประธาน ได้มอบหมายให้เป็นนโยบายแก่ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อนำไปเขียนร่วมในโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ก็คือ การใช้ศีล สมาธิ ปัญญา ในการแก้ไขปัญหาของเยาวชนในปัจจุบัน ซึ่งมีการกระทำที่ก้าวร้าวรุนแรงต่าง ๆ จนเป็นข่าวเป็นคราวอย่างที่เห็นอยู่ทั่วไป

    โดยเฉพาะวัดที่เป็นสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัด ต้องจัดโครงการปฏิบัติธรรมต่าง ๆ ร่วมกับทางโรงเรียนและส่วนราชการ เพื่อที่จะอบรม ขัดเกลา เด็กของเรา เยาวชนของเรา ให้มีความรู้ความเข้าใจ และใช้ศีล ๕ ในการดำเนินชีวิต มีสมาธิในการหักห้ามใจตนเอง ที่จะกระทำในสิ่งที่ไม่ดีไม่งามต่าง ๆ อย่างน้อยให้มีปัญญามองเห็น ว่าเรื่องที่ได้กระทำนั้น เป็นโทษต่อตนเองและครอบครัวอย่างไร
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,827
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,570
    ค่าพลัง:
    +26,413
    อย่างเช่นเยาวชนบางพวกที่ได้ทำการละเมิดกฎหมาย มาตรา ๑๑๒ ก็ต้องเดือดร้อน ติดคุกติดตารางอย่างที่เห็นอยู่ ถ้าสามารถชี้ให้เห็นโทษของการละเมิดศีล เห็นประโยชน์ของการรักษาศีล มีสมาธิที่ช่วยเหลือหักห้ามใจตนเอง ไม่ให้ทำสิ่งที่ไม่ดีไม่งาม มีปัญญามองเห็นทุกข์เห็นโทษ ที่เกิดต่อตนเองและครอบครัว ก็จะทำให้เยาวชนของเรา กลับตัวกลับใจมาประพฤติในแนวทางที่ดีขึ้น

    เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ให้ทุกวัดดำเนินการทำไปล่วงหน้าเลย ในเรื่องของงบประมาณ หรือว่าแนวทางอื่น ๆ นั้น เมื่อออกมาเป็นรูปธรรมแล้ว ค่อยไปปรับให้ดำเนินการไปในแนวเดียวกัน โดยที่ให้มีคณะกรรมการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ระดับจังหวัด ระดับอำเภอ ถ้าสามารถลงไปถึงระดับตำบลได้ ก็จะเป็นเรื่องที่ดีงามอย่างยิ่ง

    กระผม/อาตมภาพก็ยังดีใจว่า เจ้าคณะปกครองระดับเจ้าคณะใหญ่ ท่านยังมีวิสัยทัศน์มองเห็นได้ไกลขนาดนี้ แต่ก็อย่างว่า..ในส่วนของส่วนราชการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงมหาดไทย ที่มีการเซ็นข้อตกลงร่วมกัน (MOU) ระหว่างกระทรวงมหาดไทยกับมหาเถรสมาคมก็ดี หรือว่าสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติก็ตาม ก็มักจะติดขัดอยู่ตรงที่ว่ามีงบประมาณน้อยมาก

    กระผม/อาตมภาพเองยังทึ่งว่า
    ในสมัยพุทธกาลนั้น องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา ทรงขับเคลื่อนองค์กรพุทธบริษัททั้ง ๔ ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา จนกระทั่งยิ่งใหญ่ และสามารถยืนหยัดเป็นหนึ่งในศาสนาหลักของโลกมาได้ ด้วยงบประมาณที่น้อยนิดเป็นอย่างยิ่ง ก็คือมีเพียงบริขาร ๘ เท่านั้น หลัก ๆ ก็คือผ้าไตรจีวร และบาตร ในส่วนอื่นยังไปแสวงหาเอาในเบื้องหน้าได้อีกต่างหาก..!

    ในปัจจุบันนี้เรามีงบประมาณช่วยเหลือเข้ามา แต่ว่าก็มักจะกลายเป็น "เบี้ยหัวแตก" เพราะว่าต้องทำหนังสือรายงานบ้าง ต้องทำเอกสารการประชุมบ้าง ต้องทำแผนยุทธศาสตร์บ้าง แล้วต้องมีการพิมพ์เป็นรูปเล่ม เพื่อนำเสนอร่วมกับส่วนราชการ ตรงส่วนนี้ก็กินงบประมาณไปเกือบหมดแล้ว..!
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,827
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,570
    ค่าพลัง:
    +26,413
    สรุปว่าคณะสงฆ์ของเราที่ดำเนินการโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ มา จนทางส่วนราชการมองว่ามีผลมาก และเข้ามาขอความร่วมมือด้วย แต่ว่าปรับเป็นโครงการหมู่บ้านศีลธรรมนั้น ทางราชการคงไม่ได้คิด ว่าทางคณะสงฆ์ของเรานั้น ใช้งบประมาณที่มีอยู่น้อยนิดเป็นอย่างยิ่ง..!

    ไม่ต้องไปคิดถึงในส่วนนิตยภัต ซึ่งพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ องค์ประธานกล่าวว่า "ใช้เป็นค่ากาแฟยังไม่พอเลย" ซึ่งก็เป็นความจริงอย่างยิ่ง เพราะว่ารุ่นของกระผม/อาตมภาพนั้นรับนิตยภัต ที่เรียกกันง่าย ๆ ว่า เงินเดือนพระ เดือนละ ๕๐๐ บาท แค่เดินทางไปประชุมก็ไม่พอแล้ว มาในปัจจุบันนี้ เจ้าอาวาสที่ไม่ใช่พระครูสัญญาบัตร ได้รับนิตยภัตเดือนละ ๑,๘๐๐ บาท อย่างที่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ องค์ประธานปรารภว่า "แค่ค่ากาแฟก็ไม่พอแล้ว" อย่างแท้จริง

    สิ่งที่ดำเนินงานได้นั้น ก็เกิดจากเจ้าคณะปกครองต่าง ๆ ร่วมกันเสียสละไปตามลำดับชั้น แม้แต่การจัดมหกรรมหมู่บ้านรักษาศีล ๕ แต่ละครั้ง พวกเราเองก็ต้องควักกระเป๋าช่วยเหลือกัน โดยเฉพาะนโยบายที่บอกต่อกันว่า "ในเมื่อเขาอุตส่าห์มาร่วมงานแล้ว ก็อย่าให้เขากลับบ้านมือเปล่า"

    พวกเราจึงต้องช่วยกันซื้อสินค้าที่เขานำมาจัดแสดง มีบทสรุปที่พูดกันเป็นการภายในง่าย ๆ ว่า "เต็นท์ละ ๑,๐๐๐ บาท" ก็คือให้เขาขายสินค้าให้ได้อย่างน้อยรายละ ๑,๐๐๐ บาท จะได้มีค่ารถค่าน้ำมันกลับบ้าน ไม่เช่นนั้นแล้วอุตส่าห์มาร่วมงานทั้งที ไม่ได้มีผลประโยชน์อะไรเลย แถมยังต้องควักกระเป๋าเพิ่มอีก คาดว่าญาติโยมทั้งหลายก็คงจะยืนหยัดไม่ได้เหมือนกัน..!

    เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ทางราชการที่ถนัดแต่ในการใช้งบประมาณ ก็คงจะไม่รู้ไม่เห็น ว่าคณะสงฆ์ของเราต้องเสียสละกันขนาดไหน โดยเฉพาะยังไปกล่าวว่า "บรรดากรรมการหมู่บ้านศีล ๕ นั้นมีแต่พระรวย ๆ..!" คำว่า "พระรวย ๆ" นี้ กระผม/อาตมภาพได้ฟังแล้วก็ยังรู้สึกสะอึกเหมือนกัน เนื่องเพราะว่า
    พวกเรารวยเพราะใช้เงินให้เขาเห็น แต่ขณะที่เราไม่มีเงินอยู่ในกระเป๋านั้น กลับไม่มีใครเห็น..!

    อย่างวันนี้กระผม/อาตมภาพเองก็ควักจนหมดตัว จะเหลือติดกระเป๋าเป็นค่าน้ำมันกลับวัด ๑,๕๐๐ บาท หลวงพ่อท่านเจ้าคุณประเทือง ก็ยังประเภทที่เรียกว่าใจร้ายกับกระผม/อาตมภาพเสียอีกด้วย เพราะบอกว่า "วัดท่าขนุนหาเงินง่าย" บางวันกระผม/อาตมภาพก็เหลือติดกระเป๋าอยู่แค่ ๒๐ กว่าบาทก็มี..!
     
  6. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,827
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,570
    ค่าพลัง:
    +26,413
    แต่ว่าท่านทั้งหลายไม่ได้เห็นตรงนี้ เพราะว่าพวกเราส่วนใหญ่แล้วก็มาด้วยจิตใจที่เสียสละ ตั้งใจทำประโยชน์เพื่อพระพุทธศาสนาและส่วนรวม โดยถือว่าปัจจัยญาติโยมทั้งหลายก็ทำบุญมา ควรที่จะช่วยให้เป็นการบุญการกุศลอย่างเต็มที่ จึงเป็นเรื่องที่ "กลืนไม่เข้าคายไม่ออก"

    ที่ท่านทั้งหลายสรุปว่าพวกกระผม/อาตมภาพเป็น "พระรวย" ถ้าหากจะให้บอกก็คือพวกเรานั้นรวยบุญ หรือว่ารวยอริยทรัพย์ ส่วนทรัพย์ทางโลกนั้น ครูบาอาจารย์ท่านสอนให้ใช้อย่าให้ข้ามปี พูดง่าย ๆ ว่ามีเท่าไร เทให้หมดไปเลย..!

    เมื่อได้มาเป็นกรรมการดำเนินงานขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ กระผม/อาตมภาพที่คิดว่าตนเองเป็นผู้เสียสละแล้ว กลับมาเจอผู้อื่นที่เสียสละมากกว่าเสียอีก จึงรู้สึกดีใจว่า อย่างน้อย พระพุทธศาสนาของเรายังมีหวัง การขับเคลื่อนโครงการต่าง ๆ เพื่อประชาชนยังพอเป็นไปได้ ก็เพราะว่ามีบรรดาพระเถระผู้เสียสละเป็นจำนวนมากนี่เอง

    เมื่อทำการปิดประชุมแล้ว กระผม/อาตมภาพได้ขออนุญาตลา เดินทางกลับที่พัก เพราะว่ายังต้องใช้เวลาอีกนาน จึงบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนบนรถตามเคย ถ้าหากว่าสุ้มเสียงไม่ดีก็ต้องขออภัย เนื่องจากว่าห้องประชุมนั้นค่อนข้างจะเย็น กระผม/อาตมภาพเป็นคนที่แพ้เครื่องปรับอากาศ เสียงหายไปบ้าง ท่านทั้งหลายก็ต้องทนฟังเอา

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่า

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันพุธที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๗
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...