เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๖๗

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 2 ตุลาคม 2024.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,823
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,569
    ค่าพลัง:
    +26,411
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๖๗


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,823
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,569
    ค่าพลัง:
    +26,411
    วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๒ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ เป็นวันพระแรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐ หรือที่เรียกกันว่าวันสารทไทย ในเรื่องของเด็กนักเรียนจากอุทัยธานี ซึ่งไปทัศนศึกษาแล้วเกิดอุบัติเหตุไฟไหม้รถ ทำให้ทั้งคุณครูและนักเรียนเสียชีวิตไป ๒๓ ศพ..! ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียใจเป็นอย่างยิ่ง

    แต่ในขณะเดียวกัน บรรดานักการเมืองของเราก็ออกจะปากไวจนเกินไป หรือว่าผู้ที่มีอำนาจรับผิดชอบปากไวเกินไป ที่จะยกเลิกการทัศนศึกษาไปเลย เนื่องเพราะว่าเหตุที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากการทัศนศึกษา แต่เกิดจากความประมาทและละเลยในการตรวจสอบรถยนต์ ซึ่งนอกจากมีอายุมากแล้ว ยังติดตั้งแก๊สแทนที่จะเป็นน้ำมันอีกต่างหาก

    เนื่องเพราะว่าการทัศนศึกษานั้นเป็นการเปิดโลกให้บุคคลได้รู้เห็นในสิ่งต่าง ๆ มากขึ้น อาจจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็ก ๆ เหมือนอย่างกับเด็กคนหนึ่งคือ "ฉือมู่" ต้องบอกว่าเป็นเด็กทิเบต โดยปกติแล้วฉือมู่ก็อยู่แถว "แชงกรีล่า" หรือ "เมืองจงเตี้ยนเก่า" ของจีน ก็เหมือนกับเด็กทิเบตทั่ว ๆ ไปก็คือ ทั้งปีทั้งชาติไม่ได้ไปไหน แต่ว่าฉือมู่เป็นเด็กที่ขยัน ถึงเวลาก็แต่งตัวตามชนเผ่าของตนเอง แล้วก็อุ้มลูกแกะออกไป ให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูป เก็บเงินครั้งละ ๕ หยวน

    ปรากฏว่าไม่ทราบว่าบุญสัมพันธ์กรรมสัมพันธ์อย่างไร ทำให้ไปเจอนักข่าวชาวญี่ปุ่นเชื้อสายจีนเข้า น่าจะพูดคุยกันถูกอัธยาศัย หรือไม่ก็เห็นว่าฉือมู่ไม่รู้เรื่องอะไรสักอย่างหนึ่งเลย เล่าอะไรให้ฟังก็ทำท่าเหมือนอย่างกับว่า "โลกนี้ไม่มีสิ่งที่เป็นแบบนั้นหรอก" เพราะว่าตัวเองเห็นบ้านที่ใหญ่ที่สุด สูงที่สุดก็แค่ ๒ ชั้น แล้วนักข่าวมาบอกว่าที่เซี่ยงไฮ้มีตึกสูงเป็นร้อย ๆ ชั้นเยอะแยะไปหมด ท้ายที่สุดนักข่าวเขาก็เลยออกเงินค่าตั๋วเครื่องบินและค่าที่พักให้ ทำให้เด็กหญิงตัวน้อยได้มีโอกาสไปเปิดหูเปิดตาในเมืองใหญ่

    หลังจากที่นักข่าวส่งฉือมู่กลับบ้านแล้ว ตนเองก็กลับญี่ปุ่นไปด้วย ประมาณ ๑๐ ปีให้หลังเดินทางไปใหม่ พอไปถามหาเด็กหญิงที่ตัวเองรู้จัก กลายเป็นเถ้าแก่เนี้ย เจ้าของเกสต์เฮาส์ที่ใหญ่ที่สุดของแชงกรีล่า

    เมื่อรู้เห็นว่าการลงทุนต่าง ๆ ในเมืองใหญ่นั้นมีการกู้เงินจากธนาคาร ตนเองก็ปรึกษาหารือกับพ่อแม่และญาติผู้ใหญ่ ขายวัวจามรีแล้วเงินยังไม่พอ ก็ไปกู้เงินธนาคารมาสร้างบ้านพักนักท่องเที่ยว กลายเป็นเจ้าของกิจการใหญ่ ๆ โต ๆ และมั่นคงมาก เพราะว่าแชงกรีล่าเป็นที่เที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งของประเทศจีน
    นั่นคือแรงบันดาลใจที่ได้จากการไปทัศนศึกษา

    แล้วผู้มีอำนาจหรือผู้ที่มีความรับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองหรือว่าข้าราชการประจำของเรา พอเจอเหตุไฟไหม้ แทนที่จะแก้ไขด้วยการค้นหาว่าต้นเหตุมาจากไหน ? กลับจะไปแก้ด้วยการยกเลิกการทัศนศึกษา..! ถ้าพูดตามที่กระผม/อาตมภาพคิดไว้ในใจก็คือ "มึงบ้า..!" ในเมื่อเป็นเช่นนั้น สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ก็คือถึงวัวจะหายแล้ว แต่ถ้าล้อมคอกทัน วัวต่อไปก็จะไม่หายอีก..!
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,823
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,569
    ค่าพลัง:
    +26,411
    ในส่วนของการเดินทางของเด็ก ๆ บรรดาครูผู้ปกครองต้องรับผิดชอบสุดชีวิตอยู่แล้ว อย่างที่เราจะเห็นว่าคุณครูก็เสียชีวิตในกองไฟไปกับเด็กด้วย และไม่มีใครอยากจะให้อุบัติเหตุแบบนี้เกิดขึ้น แต่ในเมื่อเกิดขึ้นแล้ว ก็ต้องสาวไปถึงสาเหตุและระมัดระวังป้องกันไว้ อย่าให้เกิดขึ้นอีก

    แต่บ้านเราก็มักจทำอะไรแบบ "ไฟไหม้ฟาง" ก็คือวูบเดียวไม่มีการต่อเนื่อง เหมือนอย่างกับเป็นงานด่วนเข้ามาชั่วครั้งชั่วคราว พอความสนใจของชาวบ้านผ่านพ้นไป ก็ไม่ติดตามที่จะทำอะไรอีก จนกระทั่งเขาใช้คำว่า "ทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม" บางคนก็บอกว่า "เช้าชามเย็นกะละมัง..!"

    แต่ว่าเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ฝังรากลึกอยู่ในสังคมไทยมานานแล้ว ถึงขนาดมีภาษิตว่า "สิบพ่อค้าไม่เท่าหนึ่งพระยาเลี้ยง" ก็คือให้รับราชการเอาไว้ก่อน อยู่ในลักษณะเหมือนกับ "น้ำซึมบ่อทราย" ช่วยให้มีกินมีใช้ไม่รู้จักหมด ก็ต้องค่อย ๆ ปลูกฝัง ค่อย ๆ แก้ไขกันไป ใครที่ทำดีแล้วก็ขออนุโมทนาด้วย ส่วนท่านใดที่ยัง "เช้าชามเย็นกะละมัง" อยู่ ก็โปรดเปลี่ยนนิสัยเสียใหม่ ทำงานให้คุ้มเงินเดือนบ้าง

    ถ้าไม่รู้ว่าการทำงานที่คุ้มกับเงินเดือนเป็นอย่างไร ก็ไปดูงานที่ทองผาภูมิ ดูว่าท่านชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิทำงานอย่างไร ทั้ง ๆ ที่บ้านอยู่แค่ห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรีนี่เอง แต่เสาร์อาทิตย์หรือว่าวันหยุดท่านทำงานตลอด ไม่กลับบ้านกลับช่อง เมื่อสอบถามก็บอกว่า "หลวงจ่ายเงินเดือนให้ผมทุกวันครับ"

    เรื่องอื่น ๆ ก็
    ได้กล่าวไปแล้วตั้งแต่เมื่อวานว่า เดือนนี้คือตุลาอาถรรพ์ แล้วก็แรงมากด้วย วันก่อนอิหร่านก็ถล่มขีปนาวุธใส่อิสราเอลไปนับร้อยลูก เรื่องของสงครามในตะวันออกกลางก็ดี สงครามรัสเซีย-ยูเครนก็ตาม แม้กระทั่งเรื่องของจีนแผ่นดินใหญ่กับเกาะไต้หวัน เป็นเรื่องที่ถูกชักใยว่าไม่ช้าก็เร็วจะต้องระเบิดขึ้นอยู่แล้ว เขามีการวางแผนกันเป็นขั้นเป็นตอนมาโดยตลอด

    เพียงแต่ว่ารัสเซียก็รู้เท่าทัน ทั้ง ๆ ที่ศักยภาพของกองทัพเหนือกว่าแต่พยายามลากเกมยาว เพราะว่าตั้งใจที่จะให้ฝ่ายโลกตะวันตกหมดกำลังลงให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ พูดง่าย ๆ ก็คือสงครามเป็นการเผาเงินนั่นเอง ไม่ทราบว่าท่านทั้งหลายคิดอย่างกระผม/อาตมภาพหรือเปล่า ? ขีปนาวุธลูกหนึ่งเป็นร้อย ๆ ล้าน ยิงไปมีคนตายทีละคนสองคน..! มันคุ้มหรือเปล่าวะ ?
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,823
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,569
    ค่าพลัง:
    +26,411
    แล้วโดยเฉพาะระบบป้องกันก็คือหุ่นยนต์ ยังโดนคนหลอกได้ อย่างที่ทางด้านคู่ต่อสู้ทดสอบระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิสราเอล ด้วยการใช้ขีปนาวุธของจริงและของปลอมยิงไปพร้อม ๆ กัน ระบบป้องกันรู้แต่ว่าเป็นวัตถุความเร็วสูงที่มาทางอากาศ ก็ต้องยิงจรวดขึ้นไปปะทะเพื่อให้ระเบิดกลางอากาศ ไอ้ที่ยิงมาอาจจะมีลูกหนึ่งสัก ๒๐๐,๐๐๐ ดอลลาร์ อีกลูกหนึ่งอาจจะราคา ๒,๐๐๐ ดอลลาร์..! แต่ไอ้ขีปนาวุธที่ยิงไปสกัดนั้นแต่ละลูกหลายแสนดอลลาร์ทั้งนั้น ดังนั้น..ในเรื่องของหุ่นยนต์ อย่างไรเสียก็ยังเจ้าเล่ห์เจ้ากลสู้มนุษย์ไม่ได้ แล้วเรื่องพวกนี้ก็เป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

    ดังนั้น..ถ้าหากว่าเป็นไปได้ก็ให้เตรียมตัวกันไว้บ้าง อย่างที่ได้บอกกล่าวไปแล้ว ก็คือมีข้าวสารอาหารแห้ง น้ำดื่มติดบ้านไว้บ้าง ถึงเวลาฉุกเฉินหาซื้อจากข้างนอกไม่ได้ อย่างน้อยก็มีเก็บเอาไว้สำหรับที่จะกินจะใช้ในช่วงนั้น โดยเฉพาะในช่วงที่ซูเปอร์ไต้ฝุ่นยางิถล่มเกาะไห่หนาน เราท่านจะเห็นว่าระบบการไม่ใช้เงินสดนั้นเป็นอย่างไร เพราะว่าอินเตอร์เน็ตล่ม เงินสดก็ไม่มี จะซื้ออะไรก็สแกนไม่ได้ แทบจะตายสนิทกันทั้งเมือง..! ดังนั้น.. ถ้าเป็นไปได้ก็ให้มีเงินสดติดตัวไว้บ้าง ถึงพอที่จะรับสถานการณ์แบบนี้ได้

    ก่อนที่จะลงมาทำวัตร เพื่อนฝูงก็ส่งข่าวว่าหลวงปู่เพี้ยน (พระครูวิบูลสิริธรรม) วัดตุ๊กตา อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม มรณภาพด้วยอายุ ๙๕ ปีเพิ่งจะแตะเดือนตุลาคมเท่านั้น เอาสุดยอดพระเถราจารย์ไปแล้ว ๑ รูป..!

    ดังนั้น..เรื่องพวกนี้มีแต่ที่จะรุนแรงขึ้นไปเรื่อย ๆ สำหรับพระภิกษุสามเณรของเราก็คือ "ทำอย่างไรจะรักษาใจของเราให้เย็นเอาไว้" เย็นด้วยศีล ด้วยสมาธิ ด้วยปัญญา แม้ว่าจะดับร้อนส่วนใหญ่ของโลกไม่ได้ อย่างน้อย ๆ ญาติโยมที่อยู่ใกล้ก็มีที่พึ่ง หรือต่อให้เป็นที่พึ่งให้ญาติโยมไม่ได้ อย่างน้อยให้รักษาตัวเองได้ ไม่เป็นภาระของใครก็ยังดี

    จึงเป็นเรื่องที่เราท่านทั้งหลายต้องตระหนักว่า สถานการณ์ปัจจุบันนี้จะมีคนปั่นให้มีการเดินขบวนลงถนนอะไรกันอีก ไม่จำเป็นก็อย่าไปร่วมมือกับใคร อย่างที่กระผม/อาตมภาพเคยเตือนมาหลายครั้งแล้วว่า บรรดาผู้นำม็อบไม่เคยเจ็บไม่เคยตายกับใคร แต่คนไปร่วมม็อบมีแต่ตาย..! ถ้าหากว่ายังฉลาดน้อยไปลงถนนตามเขา ก็ถือว่าเต็มใจไปตายเองก็แล้วกัน..!

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันพุธที่ ๒ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...