เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๖๖

​

 

วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๑๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพต้องวิ่งไปยังหอประชุมอาคารราชวิริยาลังการ วัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) หมู่ที่ ๒ ตำบลไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ตั้งแต่เช้ามืด เพื่อไปร่วมพิธีเปิดการตรวจใบตอบธรรมศึกษาชั้นตรี

การตรวจใบตอบธรรมศึกษาชั้นตรีนั้น ในวิชาธรรม วิชาพุทธประวัติ และวิชาวินัย ใช้เครื่องตรวจ เพราะว่าเป็นการเลือกวงกลมข้อที่ถูกที่สุด ซึ่งปัจจุบันนี้เขาใช้ดินสอในการฝนหัวข้อที่ถูกที่สุด แล้วใช้เครื่องตรวจ แต่เนื่องจากว่าในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔ นั้น มีผู้เข้าสอบธรรมศึกษาแต่ละปีเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะจังหวัดกาญจนบุรีของกระผม/อาตมภาพนั้น จะมีนักเรียนสมัครเข้าสอบธรรมศึกษาเป็นอันดับ ๑ ถึง ๕ ของประเทศไทยทุกปี แต่ว่าทั้งภาค ๑๔ มีเครื่องตรวจอัตโนมัติแค่ ๓ เครื่อง

หลวงพี่โย่ง (พระครูสุนทรสาครกิจ) เจ้าคณะตำบลท่าไม้ เจ้าอาวาสวัดศรีสำราญราษฎร์บำรุง ในฐานะกองงานเลขานุการคณะสงฆ์ภาค ๑๔ มาปรารภว่า ขอให้กระผม/อาตมภาพเป็นเจ้าภาพเครื่องตรวจอัตโนมัติ ตลอดจนกระทั่งเครื่องพิมพ์ เครื่องคอมพิวเตอร์ในการสั่งการ รวมทั้งชุดแล้ว ราคา ๒๑๐,๐๐๐ บาท..!

กระผม/อาตมภาพจึงรับปากเป็นเจ้าภาพทันที ทำให้ "หลวงพี่โย่ง" ของกระผม/อาตมภาพโล่งใจเป็นอย่างยิ่ง เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า ในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔ นั้น มีเครื่องตรวจอัตโนมัติครบ ๔ เครื่อง สำหรับ ๔ จังหวัด ก็คือ กาญจนบุรี นครปฐม สุพรรณบุรี และ สมุทรสาคร

เมื่อถึงเวลาประมาณ ๘ โมงครึ่ง พระเดชพระคุณพระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าคณะภาค ๑๔ ก็ได้ทำพิธีมอบตราตั้งรองเจ้าคณะอำเภอเมืองนครปฐม ให้แก่พระครูปฐมสุตากร (รัตนะ สิทฺธิรตโน ป.ธ.๔) เจ้าอาวาสวัดหนองกระโดน เจ้าคณะตำบลบ้านยาง ซึ่งได้เลื่อนขึ้นเป็นรองเจ้าคณะอำเภอในงานนี้เอง

โดยที่ปกติแล้วทางด้านคณะสงฆ์จังหวัดนครปฐม จะให้เจ้าคณะอำเภอและรองเจ้าคณะอำเภอด้วยกัน เป็นผู้เจริญชัยมงคลคาถา แต่ว่าพระครูประวิทย์ (พระครูปลัดประวิทย์ วรธมฺโม, ผศ.ดร.) เจ้าอาวาสวัดบางปลา ท่านดึงเอากระผม/อาตมภาพไปนั่งแทน เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าหนึ่ง..กระผม/อาตมภาพนั้นเป็นอาจารย์สอนพระมหารัตนะ สิทฺธิรตโน ในการเรียนระดับปริญญาตรี และระดับปริญญาโทมา ที่วิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดี แล้วยังมาเป็นเพื่อนร่วมรุ่นพระอุปัชฌาย์ด้วยกันอีก เรียกว่ามีความสัมพันธ์กันหลายชั้นหลายเชิง

กระผม/อาตมภาพจึงหลุดเข้าไปนั่งงงอยู่กลางดงเจ้าคณะอำเภอและรองเจ้าคณะอำเภอของจังหวัดนครปฐม ทั้ง ๆ ที่ตนเองนั้นสังกัดคณะสงฆ์จังหวัดกาญจนบุรี..!

 

เมื่อเสร็จพิธีมอบตราตั้ง และมอบโอวาทแก่รองเจ้าคณะอำเภอ "ป้ายแดง" แล้ว พระเดชพระคุณพระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าคณะภาค ๑๔ ก็ทำพิธีเปิดการตรวจใบตอบธรรมศึกษาชั้นตรี (สนามหลวง) ของคณะสงฆ์ภาค ๑๔ พร้อมกับให้โอวาท

กระผม/อาตมภาพเองได้เรียนถวายไปตั้งแต่ต้นแล้วว่า วันนี้จะต้องรีบตรวจรีบไป เพราะว่าต้องไปเป็นประธานในการประชุมองค์กรพระอุปัชฌาย์รุ่นที่ ๕๑ ในเขตปกครองคณะสงฆ์หนกลาง ซึ่งเป็นการประชุมสมัยสามัญครั้งที่ ๒/๒๕๖๖ เมื่อตรวจไปได้ ๓ ปึก (๑๕๐ ชุด) จึงได้ถวายภาระให้กับพระครูโกวิทสุตการ (ระพิน อภิชาโน ป.ธ. ๔) เจ้าอาวาสวัดโคกเขมา รองเจ้าคณะอำเภอนครชัยศรี และพระครูโสภณโพธิมัณฑ์ (ไพรวัลย์) เจ้าอาวาสวัดห้วยมงคล รองเจ้าคณะอำเภออู่ทอง ท่านช่วยทำหน้าที่ตรวจต่อให้

กระผม/อาตมภาพเดินทางตรงไปยังวัดนาคกลางวรวิหาร ซอยอิสรภาพ ๔๒ แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร ซึ่งเจ้าอาวาสวัดนาคกลางวรวิหาร คือท่านเจ้าคุณดำเนิน - พระปริยัติวโรปการ (ดำเนิน จิตฺตโสภโณ ป.ธ.๖) นอกจากท่านจะเป็นเพื่อนร่วมรุ่นพระอุปัชฌาย์แล้ว ยังเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงอีกด้วย ความสัมพันธ์หลายชั้นหลายเชิงแบบนี้ของกระผม/อาตมภาพนั้น มีกับเพื่อนฝูงเป็นจำนวนมากด้วยกัน

พอไปถึง ส่วนที่น่ายินดีที่สุดก็คือ ท่านอาจารย์ปู่ พระวชิรสิกขการ (หลวงปู่พระมหาไพเราะ ฐิตสีโล ป.ธ.๔ ,ดร.) อดีตพระครูปลัดสุวัฒนบัณฑิตคุณ เจ้าอาวาสวัดสระแก้ว จังหวัดอ่างทอง ซึ่งเป็นอดีตเจ้าคณะอำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง ท่านได้มาร่วมงานด้วย ทั้ง ๆ ที่อายุกาลผ่านวัยถึง ๘๓ ปีแล้ว เดินเหินก็ไม่ค่อยจะสะดวก จึงได้กราบเท้าท่าน โดยที่เรียนว่า "ครั้งก่อนกระผมกราบพระครูปลัดนะครับ ครั้งนี้กระผมกราบหลวงปู่เจ้าคุณ" จึงได้หัวเราะกันอยู่ตรงนั้นเอง

เมื่อพรรคพวกเพื่อนฝูงมารวมกันมากเข้า ๆ โดยที่กระผม/อาตมภาพยังสามารถที่จะทักทายทุกคนได้ถูกต้องเหมือนเดิม สร้างความประทับใจให้แก่เพื่อนฝูงมาก ว่าประธานรุ่นจำเพื่อนแม่นเหลือเกิน เมื่อได้เวลาพวกเราก็ฉันเพลกัน เสร็จเรียบร้อยแล้วก็เข้าสู่ที่ประชุม โดยที่กระผม/อาตมภาพนำทุกรูปบูชาพระรัตนตรัย แล้วก็มอบหมายให้ท่านเจ้าคุณดำเนินกล่าวต้อนรับเพื่อนฝูง

 

หลังจากนั้นก็ได้นำเข้าสู่วาระการประชุม ซึ่งมีเรื่องที่บอกให้กับในที่ประชุมทราบ ได้แก่ความก้าวหน้าของพรรคพวกเพื่อนฝูงด้วยกัน ก็คือในคณะพระอุปัชฌาย์นั้น

พระครูวาทีวรวัฒน์, ดร. (กล้า วีรรตโน) รองเจ้าคณะอำเภอเมืองเพชรบุรี เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุวรวิหาร จังหวัดเพชรบุรี ท่านได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นเอก

พระมหาโอภาส จนฺทาโภ ป.ธ.๓ วัดเชิงกระบือ จังหวัดนนทบุรี ท่านได้รับพระราชทานตั้งเป็นพระครูสัญญาบัตรที่ พระครูนนทสุตาภรณ์

พระปลัดประชุม ฌานสมฺปนฺโน วัดพิทักษ์เทพาวาส ได้เลื่อนสมณศักดิ์ขึ้นเป็น พระครูปลัดปัญญาวรวัฒน์

พระครูปฐมสุตากร หรือ พระมหารัตนะ สิทฺธิรตโน ได้รับแต่งตั้งเป็น รองเจ้าคณะอำเภอเมืองนครปฐม เป็นต้น

แล้วก็นำเข้าสู่วาระการประชุมอื่น ๆ โดยที่ให้พรรคพวกเพื่อนฝูงแต่ละคน แสดงความคิดเห็นตามลำดับไป โดยที่เริ่มจากพระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระภาวนาวิหารกิจ วิ. (ทองย้อย สญฺญโม) ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดราชบุรี เจ้าอาวาสวัดเขาวัง

ต่อด้วยพระครูโสภิตปัญญากร (เชาวลิตร ชิตงฺกโร) เจ้าอาวาสวัดป่าประดู่ (พระอารามหลวง) เจ้าคณะอำเภอเมืองระยอง

ไล่ไปตามลำดับ คือ พระสมุห์เจิม ฉนฺทโก เจ้าอาวาสวัดสิงห์ เจ้าคณะตำบลบางคูเวียง จังหวัดนนทบุรี ว่ากันไปตามลำดับ ๆ จนกระทั่งทุกคนก็สงสัยว่า กระผม/อาตมภาพนั้นจำเพื่อนจำฝูงและตำแหน่งของท่านได้หมดได้อย่างไรกันแน่..!?

ต่อไปก็เป็นท่านพระมหาสมคิด อตฺถสิทฺโธ ปธ. ๗ เจ้าอาวาสวัดหนองโพ จังหวัดราชบุรี รองเจ้าคณะอำเภอโพธาราม

 

ต่อด้วยบุคคลสำคัญของเรา ก็คือพระมหาเจริญ จิรวฑฺโฒ ป.ธ.๘ เจ้าอาวาสวัดเขาถ้ำ เจ้าคณะอำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี ซึ่งรายนี้ไม่ว่าจะไปประชุมใกล้ หรือว่าประชุมไกล ท่านก็ไปร่วมงานด้วยทุกครั้ง ในเรื่องพวกนี้ต้องบอกว่า ขึ้นอยู่กับพรรคพวกเพื่อนฝูงว่าจะเห็นความสำคัญในการประชุมสักเท่าไร ถ้าหากว่าให้ความสำคัญกับการประชุม ท่านก็จะมาร่วมงานด้วย แต่ถ้าหากว่าไม่เห็นความสำคัญของการประชุม ท่านก็จะทิ้งงาน ไปเอางานอื่นที่สำคัญกว่า

ต่อด้วยพระครูสิริชยาลังการ (วีระชัย ชยวีโร ป.ธ.๕, ดร.) หรือ มหาวีระชัย วัดคลองบางบ่อ จังหวัดระยอง

พระครูปลัดปัญญาวรวัฒน์ วัดพิทักษ์เทพาวาส เจ้าคณะตำบลดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี

ไล่ไปตามลำดับ จนกระทั่งย้อนกลับมาอีกด้านหนึ่ง ซึ่งประกอบไปด้วย ท่านพระมหาจำนงค์ ปภสฺสโร ป.ธ.๓ วัดบ่อแร่ จังหวัดชัยนาท

ท่านพระครูปภากรวชิรกิจ (อำนวย ปภากโร) เจ้าอาวาสวัดถ้ำแก้ว จังหวัดเพชรบุรี

ท่านพระครูวิชิตกิตติคุณ (วิเชียร อาสโก) วัดมาบพระจันทร์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ท่านพระครูนนทสุตาภรณ์ หรือว่าอดีตพระมหาโอภาส จนฺทาโภ วัดเชิงกระบือ จังหวัดนนทบุรี

แล้วก็ต่อไปที่ท่านพระครูขันติวรานุสิฐ (สามารถ ขนฺติวโร) เจ้าอาวาสวัดน้อย (หลวงพ่อเนียม) ซึ่งท่านเองแม้ว่าจะเจ็บไข้ได้ป่วย ก็ยังอุตส่าห์มาร่วมประชุม ไม่เคยขาด

ตามมาด้วยพระมหาศรีสมหวัง ธมฺมธีโร เจ้าอาวาสวัดลานนาบุญ จังหวัดนนทบุรี

พระครูสิทธิวัฒนคุณ (พรพรหม ฐิตคุโณ) เจ้าอาวาสวัดกระจัง ที่ปรึกษาเจ้าคณะเขตตลิ่งชัน

พระครูโสภณปัญญาวรวัฒน์ (มงคล) เจ้าอาวาสวัดท้ายเมือง จังหวัดราชบุรี

แล้วปิดท้ายด้วยผู้ช่วยเลขานุการรุ่นสด ๆ ร้อน ๆ ก็คือพระมหาพงศ์ศิริ ปญฺญาวชิโร ป.ธ. ๙ วัดเขาวัง จังหวัดราชบุรี ซึ่งท่านจบเปรียญธรรม ๙ ประโยคมาด้วยคะแนนสูงสุด ก็คือ ๑๐๐ คะแนนเต็ม ไม่มีที่ใดให้อาจารย์ "เก็บ" ได้เลยแม้แต่คะแนนเดียว..!

 

เมื่อทุกคนแสดงความเห็นกันเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ขอแสดงความขัดใจทุกคน ที่พวกเราต้องสร้างงานสาธารณสงเคราะห์ในนามขององค์กรพระอุปัชฌาย์รุ่นที่ ๕๑ ในเขตปกครองคณะสงฆ์หนกลางทุกปี ก็คือ ขอให้มอบเงินสาธารณสงเคราห์ ๒๐,๐๐๐ บาท ซึ่งเป็นเงินกองกลางขององค์กรพระอุปัชฌาย์รุ่นนี้ ให้กับท่านอาจารย์พระมหาสมคิด อตฺถสิทฺโธ ปธ. ๗ เจ้าอาวาสวัดหนองโพ จังหวัดราชบุรี รองเจ้าคณะอำเภอโพธาราม นำไปเป็นเจ้าภาพร่วมสร้างพระประธานสูง ๑๒๐ ฟุต ที่ประเทศศรีลังกา ซึ่งทุกท่านก็อนุโมทนาด้วยกันทั้งสิ้น

เมื่อการประชุมเสร็จสิ้นลงแล้ว ก็นัดแนะกันว่าการประชุมสมัยสามัญประจำปี ครั้งที่ ๑/๒๕๖๗ นั้น หลวงพ่อเชาวลิตร (พระครูโสภิตปัญญากร) เจ้าอาวาสวัดป่าประดู่ (พระอารามหลวง) เจ้าคณะอำเภอเมืองระยอง ท่านจะรับเป็นเจ้าภาพเอง

เมื่อถึงเวลานั้นแล้วกระผม/อาตมภาพฝาก "วาระสืบเนื่อง" ไว้ด้วย ก็คือให้มีการเลือกตั้งประธานองค์กรพระอุปัชฌาย์ รุ่นที่ ๕๑ รูปใหม่เสียที เพราะว่ากระผม/อาตมภาพเป็นประธานรุ่นมาสองวาระ แถมยังรักษาการในช่วงเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ระบาด รวมเวลาแล้วเกือบจะ ๘ ปีเต็ม ถ้าหากว่าถึงวันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๖๗ ก็ทำหน้าที่ประธานรุ่นมา ๘ ปีแล้ว ถ้ามีใครเบื่อหน่ายหน้าประธานรุ่น จะได้ออกเสียงเลือกคนอื่นเขาบ้าง กระผม/อาตมภาพจะได้พักผ่อนเสียที

เสร็จสรรพเรียบร้อย ด้วยความที่ทุกคนคิดถึงกันมาก จึงอ้อยอิ่งกันแทบไม่อยากจะลาจาก เพราะว่าปีหนึ่งก็ได้มารวมตัวกันแค่สองครั้งเท่านั้น แม้ว่าการทำสาธารณประโยชน์ ก็กลายเป็นว่า เมื่อประชุมที่ไหน ก็มอบให้กับบุคคลที่เหมาะสมในที่ประชุมนั้นเลย ไม่ได้มีการเดินทางไปร่วมงานสาธารณสงเคราะห์กันอีกเหมือนกับในช่วงต้น

การที่พบปะกันก็ลดน้อยถอยลงไปเรื่อย เพราะว่าแต่ละรูปแต่ละคน ล้วนมีภารกิจมากขึ้นไปตามลำดับ แล้วขณะเดียวกัน อายุกาลก็ผ่านวัยมากขึ้นไปทุกที ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทุกท่านที่นั่งมองหน้ากันอยู่นี้ ในการประชุมครั้งหน้ายังจะอยู่กับครบถ้วนหรือไม่ !? กระผม/อาตมภาพร่ำลาเพื่อนฝูงทุกคน แล้วก็ได้เดินทางกลับเข้าสู่ที่พัก เตรียมที่จะเดินทางไปปฏิบัติธรรมที่มหาจุฬาอาศรม ตำบลดงพญาเย็น อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมาต่อไป

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๑๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)