ติดตามสถานะการณ์

Watchers


#Volcano

// การปะทุของภูเขาไฟ Rincon de la Vieja, คอสตาริกา, ทำให้แม่น้ำเป็นกรด, ฆ่าปลาหลายร้อยตัวและจระเข้ //

19/01/19

ในวันพฤหัสบดี (17/01/19)มีเหตุการณ์ปะทุเกิดขึ้นที่ภูเขาไฟ Rincon de la Vieja ในคอสตาริกา ทำให้น้ำในทะเลสาบเป็นกรดนั้น ไหลออกมาและลงในลำธารทำให้น้ำกลายเป็นสีเทาและฆ่าปลาที่อาศัยอยู่ภายใน พบแม้แต่ จระเข้ Caiman ที่ตายแล้ว


ชาวเมืองGavilánและ Buenos Aires ของ Upala รายงานน้ำในแม่น้ำPénjamo, Azul และ Quebrada Azufrada เป็นสีเทา ประมาณ 7:35 น. ประชาชนรายงานว่าสีของแม่น้ำNiño (อยู่ห่างจากภูเขาไฟ 15 กิโลเมตร) อุ่นขึ้นเปลี่ยนเป็นสีเทาทั้งหมดที่มาพร้อมกับกลิ่นกำมะถัน


ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาปลาของแม่น้ำNiñoเริ่มลอยตัวในปริมาณมาก ปชช.จะต้องรวบรวมปลาตายใส่ถุงพลาสติกขนาดใหญ่ ปลาที่ตายแล้วที่สะสมมานั้นมีเหงือกที่เหมือนถูกไฟไหม้ ผิวของพวกมันเปลี่ยนเป็นสีเหลืองและถูกเผาบางส่วนด้วย


นอกจากนี้ Caiman (จระเข้เคย์แมน) ที่ตายแล้วถูกพบว่าตายบนฝั่งแม่น้ำ


น้ำที่เป็นกรดของทะเลสาบภูเขาไฟ ฆ่าปลาและสัตว์น้ำอื่น ๆ ตามแม่น้ำ

ที่มา :

#Watchers

 

Watchers

#สภาพอากาศสุดขั้ว

19/01/19

ความเปรียบต่างของอุณหภูมิสูงมากในวันที่ 18 มกราคม 2019:

+ 48.3 ° C (118.9 ° F) ใน Tibooburr (#ออสเตรเลีย)

และ -57.5 ° C (-71.5 ° F) ใน Delyankir (#รัสเซีย)

#Watchers #Extremeweather

#ENDOFDAY

 

Antares StarExplorer


ข่าวนี้ออกมาได้สัก 4-5 วันแล้วครับ ถือเป็นความท้าทายขึ้นไปอีกสำหรับหน่วยงานอย่าง CERN หรือ European Organization for Nuclear Research ในฐานะที่เป็นผู้ค้นพบหน่วยย่อยของอนุภาคมูลฐาน (Elementary particle) อย่าง Higgs boson หรือที่เรียกกันเล่นๆว่า God particle นั่นแหละครับ


ตอนนี้ CERN เค้ากำลังเตรียมจะสร้างเครื่องเร่งอนุภาคที่อยู่ใต้พื้นดินให้มีขนาดใหญ่มากกว่าเดิม จากที่เดิมมีความกว้างราว 27 กิโลเมตร เป็นมีความกว้างราว 100 กิโลเมตร กินพื้นที่ชายแดนประเทศฝรั่งเศสและสวิตเซอร์แลนด์


การเพิ่มขนาดก็เพื่อหวังว่าจะเพิ่มความสามารถของเครื่องเร่งอนุภาค เพราะอาจจะเจออนุภาค ที่ไม่รู้จักเพิ่มขึ้นอีก นับเป็นความท้าทายใหม่ ที่เราจะได้เข้าใจธรรมชาติของอนุภาคมูลฐาน และนำมันไปใช้ประโยชน์ต่อไปครับ


https://phys.org/news/2019-01-cern-...EUzX2Rsc7CGt9eHDK5EvFzGohFAUFZn_uddXzxiSs6IA4

 

ช่างศุภวิชญ์ จูเปรมปรี


#ดัชนีคุณภาพอากาศเชียงรายเฝ้าระวัง วันนี้สูงกว่าเมื่อวาน อ.เทิง_เมือง ครับ

 

Watchers


#Earthquake

วันที่ 20 มกราคม 2562

เวลา 03:00 น. ตามเวลาประเทศไทย


แผ่นดินไหว ประเทศ #ลาว

(21.13,101.70)

ขนาด 2.7

ความลึก 10 กม.

ทิศตะวันออกเฉียงเหนือของ ต.ริมโขง อ.เชียงของ จ.เชียงราย ประมาณ 164 กม.

[TMD] (link: http://dlvr.it/Qx3ZfW)

#Watchers

 

Watchers


ปรากฏการณ์ เมฆสีรุ้ง "#Iridiscent Clouds"ที่เมือง Iquique, #Chile, เมื่อวันที่ 17/01/2019

เครดิตภาพโดย Larry Home, Carlo Espoz และ Karen Casavi

 

John Traczyk


19 มกราคม 2019 นาน 4 ชั่วโมงที่พุ่งขึ้นในเสียงของ schumann (Schumann resonances) สูงสุดที่ 70 hz


Schumann Resonance วัดส่วนความถี่ต่ำ (ELF) ของสนามแม่เหล็กไฟฟ้าของโลก

Schumann resonances เป็น resonances แม่เหล็กไฟฟ้าทั่วโลก สร้างขึ้นและกระตุ้น โดยการปล่อยสายฟ้าในโพรงที่เกิดขึ้นจากพื้นผิวโลกและไอโอโนสเฟียร์ มันถูกเรียกว่าการเต้นของหัวใจหรือการสั่นสะเทือนของโลก ปกติแล้วมันจะอยู่ที่ 7.83 Hz



ในวันที่ 31 มกราคม 2559 เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่บันทึกไว้Schumann resonances ได้แหลมขึ้น ด้วยความถี่ 36+ เฮิร์ตซ์ ถือว่าเป็นความผิดปกติ เมื่อในปี 2557 ความถี่นี้เพิ่มขึ้นจากปกติ 7.83 เฮิร์ตซ์ไปยังบางแห่งในระดับ 15-25 เฮิร์ตซ์ดังนั้นการกระโดดจาก 7.83 เฮิร์ตซ์เป็น 36+ เฮิร์ตซ์เป็นเรื่องใหญ่ นั่นเพิ่มขึ้นมากกว่าห้าเท่าในระดับความถี่พ้อง เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2559 มันสร้างสถิติสูงสุดอีก 60 Hz มันได้รับการปั่นอย่างสม่ำเสมอในช่วงนั้น และสูงขึ้นในขณะนี้


เมื่อมังกรแดงตัวใหญ่เข้ามาการเชื่อมต่อพอร์ทัลแม่เหล็กไฟฟ้าของมันจะขยายตัวมากขึ้นและสายฟ้าก็จะปลดปล่อยออกมา


นี่คือบรรพบุรุษของพลังแห่งสวรรค์ที่กำลังสั่นคลอนตามที่พระเยซูบอกเราในลูกา 21 ของพระคัมภีร์

 

NuEnG KetoDaddy


Grounding หรือ Earthing ทำไปเพื่อ?


ทราบหรือไม่ว่า ความถี่ที่เกิดจากสนามพลังแม่เหล็กของโลก กับ ความถี่ที่สำคัญในการทำงานของสมองเรา จะอยู่ที่ 7.83 hz เท่ากันเลย


จาก Schumann resonances effect สามารถที่จะระบุได้ชัดเจนว่าทำไมต้องที่ 7.83 hz


การที่เราทำ Grounding หรือ Earthing สม่ำเสมอ ทำให้คลื่นความถี่ในร่างกายเรา สามารถปรับกลับมาอยู่ในสภาวะที่ควรจะเป็น เนื่องจากสมัยนี้ เราโดนคลื่นความถี่สูงอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นจากสัญญาณ Wifi (2.4 Ghz หรือ 5 Ghz) หรือ สัญญาณไมโครเวฟ สัญญาณจากเสาส่งโทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์ Bluetooth... และอื่นๆอีกมากมาย


ซึ่งสัญญาณแปลกปลอมเหล่านี้ ทำให้ระบบร่างกายเสียสมดุล บางคนจะมีอาการปวดหัว (ในขั้นต้น) ซึ่งจะเป็นมากขึ้นจนกระทบเรื่องอื่นๆเช่น ระบบเมตาโบริซึม ระบบสมอง จนถึงขั้นเป็นโรคร้าย โรคอ้วน ตามมาได้.


นอกจากนั้น เราก็ยังได้รับอิเล็กตรอนจากพื้นโลก เพื่อเอามาใช้ในระบบร่างกาย โดยเฉพาะที่ ไมโทครอนเดรีย ของเราได้อีกด้วย


คำแนะนำเบื้องต้น

- หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้อุปกรณ์ที่ส่งสัญญาณความถี่สูง

- ปิด wifi / bluetooth หรือ จะให้ดี เปิด airplane mode ถ้าไม่ได้ใช้มือถือ

- ปิด wifi ในบ้านตอนจะนอน

- อยู่ให้ห่างจากเสาส่งสัญญาณมือถือ (ตามข้อกำหนด ต้องอยู่ห่าง 400 เมตร) ไม่งั้นจะเป็นมะเร็ง

- ถอดรองเท้าแล้วสัมผัสกับโลกบ้าง

- กอดต้นไม้ใหญ่ๆ

- หาโอกาสไปเดินชายทะเล

- ลองฟัง youtube ที่แปะให้ ซึ่งเป็นเสียงความถี่ที่ 7.83 hz ตอนที่ทำ earthing หรือ จะทำตอนนั่งสมาธิก็ได้


ลองดูไม่เสียหายนะครับ


https://en.wikipedia.org/wiki/Schumann_resonances

 

John Traczyk


ขอให้พวกเขาเป็นสัญญาณ


วิวรณ์ 12 สัญญาณพยากรณ์สำเร็จความเป็นจริง ในวันที่ 23 กันยายน 2559 เมื่อดวงจันทร์ขึ้นอย่างเป็นทางการภายใต้เท้าของหญิง ในราศีกันย์เวลา 20:30 น. IDT ในกรุงเยรูซาเล็ม 17 นาทีก่อนเท้าและดวงจันทร์ของเธออยู่ใต้เส้นขอบฟ้า


ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน 2559 ถึงวันนี้ 19 มกราคม 2562 เวลา 12.30 น. EST เป็นการสิ้นสุดระยะเวลา 69 สัปดาห์ 483 วัน


"ช่วงเวลา 69 สัปดาห์มีความสำคัญเชิงพยากรณ์เพราะในสัปดาห์ของดาเนียลพยากรณ์เป็นระยะเวลา 69 สัปดาห์ นำหน้าความยากลำบากหรือสัปดาห์ที่ 70 (ดาเนียล 9: 24-27)" - T. W. Tramm

24“มี 70 สัปดาห์แห่งปีกำหนดไว้สำหรับชนชาติของท่านและนครบริสุทธิ์ของท่าน เพื่อให้ยุติการละเมิด ให้บาปจบสิ้น และให้ลบมลทิน เพื่อนำความชอบธรรมนิรันดร์เข้ามา เพื่อประทับตราทั้งนิมิตและคำของผู้เผยพระวจนะไว้ และเพื่อจะเจิมอภิสุทธิสถาน

25เพราะฉะนั้นจงสังเกตและเข้าใจว่า นับตั้งแต่การที่ถ้อยคำนั้นออกไป ให้สร้างกรุงเยรูซาเล็มขึ้นใหม่ จนถึงสมัยประมุขผู้ถูกเจิมไว้ก็เป็นเวลา 7 สัปดาห์ และเยรูซาเล็มจะถูกสร้างขึ้นพร้อมด้วยคูและลานเมืองเป็นเวลา 62 สัปดาห์ แต่จะเกิดขึ้นในช่วงเวลายากลำบาก 26หลังจาก 62 สัปดาห์แล้ว ท่านผู้ถูกเจิมจะต้องถูกตัดออกและจะไม่มีอะไรเหลือ และคนของประมุขผู้ที่จะมานั้นจะทำลายเมืองและสถานนมัสการ แต่ที่สุดปลายของมันจะมาถึงอย่างน้ำท่วม จนกระทั่งในที่สุดจะมีสงคราม การร้างเปล่าได้ถูกกำหนดไว้แล้ว

27ท่านจะทำพันธสัญญาอย่างมั่นคงกับคนเป็นอันมากอยู่หนึ่งสัปดาห์ ท่านจะทำให้การถวายสัตวบูชา และเครื่องบูชาอื่นๆ หยุดไปครึ่งสัปดาห์ สิ่งน่าสะอิดสะเอียนที่ทำให้ร้างเปล่าตั้งอยู่บนหัวมุมของแท่นบูชา จนความอวสานที่ได้กำหนดไว้จะถูกเทลงเหนือผู้ทำให้เกิดความวิบัตินั้น”


ฉันพบว่ามันน่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับพระเจ้าที่ได้วางซูเปอร์ดวงจันทร์เลือด เช่นเดียวกับ ดาวพฤหัสบดี และดาวศุกร์มารวมกันภายในสัปดาห์ที่ 70 นี้


ฉันยังพบว่ามันน่าสนใจว่า Eclipse "เต็ม" จะสิ้นสุดลงในวันที่ 21 มกราคมเวลา 12:43 น. EST เวลา 24 ชั่วโมงก่อนจุดเชื่อมต่อที่ใกล้ที่สุดของดาวพฤหัสบดีและดาวศุกร์เวลา 12:43 น. EST ในวันที่ 22 มกราคม


ในตอนเย็นของวันที่ 22 มกราคมดวงจันทร์จับคู่กับเรกูลัส ซึ่งเป็นดาวที่สว่างที่สุดในกลุ่มดาวราศีสิงห์


ดวงจันทร์จับคู่กับ Spica ซึ่งเป็นดาวที่สว่างที่สุดในกลุ่มดาวราศีกันย์ ในวันที่ 26 มกราคม


วันเสาร์ที่ 26 มกราคม 2019 เวลา 12:30 น. EST จะเป็นจุดสิ้นสุดของ 70 สัปดาห์นับตั้งแต่การอัศจรรย์ครั้งใหญ่ในสวรรค์ 490 วันอย่างแน่นอน


ปฐมกาล 1:14

พระเจ้าตรัสว่า "จงให้มีดวงสว่างบนพื้นฟ้าอากาศเพื่อแยกวันออกจากคืน และให้พวกเขาเป็นหมายสำคัญและตามฤดูกาลและวันและปี:


วิวรณ์ 12: 1-5

1 และมีหมายสำคัญยิ่งใหญ่อย่างหนึ่งปรากฏในสวรรค์ คือผู้หญิงคนหนึ่งสวมดวงอาทิตย์เป็นเสื้อผ้า และมีดวงจันทร์อยู่ใต้เท้าของนาง บนศีรษะของนางมีมงกุฎที่เป็นดาวสิบสองดวง

2 หญิงนั้นมีครรภ์ และร้องด้วยความทรมานเพราะเจ็บครรภ์

3 และหมายสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็ปรากฏในสวรรค์ นี่แน่ะ มีพญานาคสีแดงตัวใหญ่ตัวหนึ่ง มันมีเจ็ดหัวและสิบเขา และบนหัวทั้งเจ็ดมีมงกุฎเจ็ดอัน

4 และหางของพญานาคตวัดดวงดาวหนึ่งส่วนสามในท้องฟ้า แล้วทิ้งลงมาบนแผ่นดินโลก และพญานาคตัวนั้นก็ยืนอยู่ข้างหน้าหญิงที่กำลังจะคลอดบุตร เพื่อจะกินบุตรของนางทันทีที่บุตรนั้นคลอดออกมา

5 แล้วนางก็คลอดบุตรชาย ผู้ที่จะครอบครองประชาชาติทั้งหมดด้วยคทาเหล็ก แต่บุตรของนางถูกนำตัวไปเฝ้าพระเจ้ายังพระที่นั่งของพระองค์


Let Them Be For Signs.


The Revelation 12 Sign prophecy was precisely fulfilled on September 23, 2017 when the moon officially came under Virgo's feet at 8:30 pm IDT in Jerusalem; 17 minutes before her feet and the moon set below the horizon.


From September 23, 2017 to today, January 19, 2019 at 12:30 pm EST marked the completion of 69 weeks. 483 days.


"A 69-week timespan is prophetically significant because in Daniel’s weeks prophecy a period of 69 weeks precedes the Tribulation, or 70th week (Dan. 9:24-27)." - T. W. Tramm


I find it extremely interesting for God to have placed a Super Blood Moon as well as a Jupiter, Venus conjunction within this 70th week.


I also find it interesting that the "Full" Eclipse ends on January 21st at 12:43 am EST exactly 24 hours before Jupiter and Venus' closest point of conjunction at 12:43 am EST on January 22nd.


On the evening of January 22nd the Moon pairs with Regulus, the brightest star in the constellation Leo.


The Moon then pairs with Spica, the brightest star in the constellation Virgo on January 26th.


Saturday, January 26, 2019 at 12:30 pm EST will mark the end of 70 weeks since the great wonder in heaven. 490 days exactly.


Genesis 1:14

And God said, Let there be lights in the firmament of the heaven to divide the day from the night; and let them be for signs, and for seasons, and for days, and years:


Revelation 12:1-5

1 And there appeared a great wonder in heaven; a woman clothed with the sun, and the moon under her feet, and upon her head a crown of twelve stars:

2 And she being with child cried, travailing in birth, and pained to be delivered.

3 And there appeared another wonder in heaven; and behold a great red dragon, having seven heads and ten horns, and seven crowns upon his heads.

4 And his tail drew the third part of the stars of heaven, and did cast them to the earth: and the dragon stood before the woman which was ready to be delivered, for to devour her child as soon as it was born.

5 And she brought forth a man child, who was to rule all nations with a rod of iron: and her child was caught up unto God, and to his throne.

 

23 กันยายน 2559 - 21 มกราคม 2562 ก็มีเยรูซาเล็มจริง เพราะทรัมป์ย้ายสถานทูตสหรัฐอเมริกา ไปยังนครเยรูซาเรม ถ้าไม่มีทรีมป์สถานทูตสหรัฐอเมริกา จะมีใครกล้าย้าย

 

Kimberly Eady ถาม

ความสำคัญในพระคัมภีร์ไบเบิลของ ดาวพฤหัสบดีและดาวศุกร์คืออะไร? และขอบคุณสำหรับการวิจัยที่น่าอัศจรรย์ของคุณ


John Traczyk ตอบ


Kimberly Eady 22 มกราคม 2562 จะมี ดาวศุกร์และดาวพฤหัสบดีร่วมกันใน กลุ่มดาวที่ 13 กลุ่มดาวคนแบกงู (constellation Ophiuchus) เมื่อเวลา 12:43 น. EST


กลุ่มดาวนี้เชื่อกันอย่างกว้างขวางว่าอาจเป็นดาราแห่งเบ ธ เลเฮม ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2 ปีก่อนคริสตกาล


ในเครื่องหมายวิวรณ์ 12 เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2559 ดาวพฤหัสบดีเป็นตัวแทนของเด็กผู้ชายจากวิวรณ์ 12: 5 มันเป็นดาวเคราะห์ที่อยู่ในครรภ์ของราศีกันย์เป็นเวลา 9 เดือน


วิวรณ์ 12: 5

และเธอก็คลอดบุตรชายผู้หนึ่งซึ่งจะปกครองประชาชาติทั้งปวงด้วยคทาเหล็กและลูกของเธอก็ถูกจับไปถึงพระเจ้าและถึงพระที่นั่งของพระองค์


ดาวศุกร์เป็นที่รู้จักในนาม Morning Star ในวิวรณ์ 22:16 พระเยซูถูกอ้างถึงในฐานะดาวที่สว่างและรุ่งเช้า


วิวรณ์ 22:16

16 “เรา เยซู ส่งทูตสวรรค์ของเรามาเป็นพยานถึงสิ่งเหล่านี้แก่ท่านเพื่อคริสตจักรต่างๆ เราเป็นทายาท และเป็นเชื้อสายของดาวิดและเราเป็นดาวแห่งรุ่งอรุณอันสุกใส”


คำถามที่ถามว่าการรวมกลุ่มนี้เป็นตัวแทนของเด็กผู้ชายที่ได้รับดาวตอนเช้าในวิวรณ์ 2: 26-28 หรือไม่?


วิวรณ์ 2: 26-28

26และคนที่ชนะและปฏิบัติงานของเราจนถึงที่สุด

เราจะประทานสิทธิอำนาจเหนือบรรดาประชาชาติกับเขา

27และเขาจะปกครองดูแลคนทั้งหลายด้วยคทาเหล็ก

เหมือนอย่างหม้อกระเบื้องที่ถูกตีแตกเป็นเสี่ยงๆ

28เหมือนอย่างที่เราได้รับอำนาจจากพระบิดาของเราแล้ว และเราจะมอบดาวประจำรุ่งให้กับเขาด้วย


ดาวศุกร์และดาวพฤหัสบดีจัดอยู่ในอันดับที่ 3 ของท้องฟ้าที่มีความสว่างและอันที่ 4 ที่มีความสว่างมากที่สุดตามลำดับหลังจากดวงอาทิตย์และดวงจันทร์


Kimberly Eady January 22, 2019 there will be a conjunction of Venus and Jupiter in the 13th constellation Ophiuchus at 12:43 am EST.


This conjunction is widely believed to have possibly been the Star of Bethlehem that occurred on June 17, 2 BC


In the Revelation 12 Sign on September 23, 2017 Jupiter represented the man child from Revelation 12:5. It was the planet that was in Virgo’s womb for 9 months.


Revelation 12:5

And she brought forth a man child, who was to rule all nations with a rod of iron: and her child was caught up unto God, and to his throne.


Venus is known as the Morning Star. In Revelation 22:16 Jesus is refereed to as the bright and morning star.


Revelation 22:16

I Jesus have sent mine angel to testify unto you these things in the churches. I am the root and the offspring of David, and the bright and morning star.


A question being asked, Is this conjunction representative of the man child being given the morning star in Revelation 2:26-28?


Revelation 2:26-28

26 And he that overcometh, and keepeth my works unto the end, to him will I give power over the nations:

27 And he shall rule them with a rod of iron; as the vessels of a potter shall they be broken to shivers: even as I received of my Father.

28 And I will give him the morning star.


Venus and Jupiter rank as the 3rd-brightest and 4th-brightest celestial bodies, respectively, after the sun and moon.


ภาพจากกูเกิล

 

“คนแบกงู” กลุ่มดาวใหม่ในจักรราศี ที่อาจทำให้ 1 ปีมี 13 เดือน by Pakkapol Samphet
August 2, 2018

อย่างที่เราทราบกันดีว่าจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาลของเรานั้นเต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ อันเป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจแก่มนุษย์โลกให้จินตนาการภาพวัตถุเล็กๆ ที่ประกายระยิบอยู่บนท้องฟ้ายามค่ำคืนนั้น เชื่อมโยงสัมพันธ์กันเป็น “กลุ่มดาว” แถมยังมีความเชื่อ ตำนาน เรื่องเล่าที่ผูกพันสืบทอดมาคู่กับกลุ่มวัตถุบนท้องฟ้าเหล่านั้นเป็นเวลาเนิ่นนาน (หรือแม้แต่เอามาทำนายดวงชะตากันก็มี)กลุ่มดาวเหล่านี้นอกจากจะมีหน้าที่ดังกล่าวแล้ว ยังเป็นที่มาของระบบการนับปี นับเดือน และนับวันเวลาต่างๆ บนโลกอีกด้วย ซึ่งการค้นพบกลุ่มดาว “คนแบกงู” นั้น อาจจะทำให้การนับเดือนของเราเปลี่ยนแปลงไป และบทความนี้จะพาเราจะไปทำความรู้จักความเชื่อมโยงสัมพันธ์ของวัตถุบนท้องฟ้าแล้วจะทำให้เรารู้ว่าเรานั้น ใกล้ชิดกับวัตถุอันไกลโพ้น เหล่านี้มากขนาดไหน

กำเนิด “กลุ่มดาว” จากเรื่องเล่าสู่ความมหัศจรรย์บนผืนฟ้า


กลุ่มดาว (Constellations) หมายถึงกลุ่มของดาวฤกษ์ที่เผาผลาญตัวเองและส่องสว่างอยู่ในจักรวาลอันไกลโพ้น เมื่อแสงของมันเดินทางมาถึงดวงตาเรา มนุษย์ที่เพิ่งเริ่มมีอารยธรรมและรู้จักการสังเกต จึงเชื่อมต่อแสงซึ่งก็คือตัวแทนของดวงดาวเป็นรูปร่างต่างๆตามจินตนาการ แล้วตั้งชื่อให้กับกลุ่มดาวเหล่านั้นหรืออาจผูกเรื่องราว ตำนาน หรือเรื่องเล่าขานให้เข้ากันกับภาพที่เห็น ซึ่งในความเป็นจริง ดาวฤกษ์ในกลุ่มดาวเดียวกันที่เห็นอยู่ใกล้กันบนท้องฟ้านั้น ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกันและห่างไกลกันมาก (มากๆ)ในอวกาศ

ศึก 12 ราศี (หรือว่ามี 13 กันแน่นะ?)
ในปัจจุบัน สหพันธ์ดาราศาสตร์สากล (International Astronomical Union : IAU) แบ่งพื้นที่ในท้องฟ้าออกเป็นกลุ่มดาวได้ทั้งหมด 88 กลุ่ม ในเหล่านี้มี 12 กลุ่มที่เป็นกลุ่มดาวจักรราศี (Zodiac) คือเป็นกลุ่มดาวที่ปรากฏบนแถบสมมติ (ที่สังเกตจากโลก) ที่ดวงอาทิตย์ปรากฏเคลื่อนผ่านในรอบ 1 ปี เรียกว่า สุริยวิถี (Eclipse)

ในอดีตนักโหราศาสตร์ ทราบตำแหน่งของดวงอาทิตย์ตามจักรราศีโดยดูว่ากลุ่มดาวไหนโผล่พ้นขอบฟ้าก่อนดวงอาทิตย์ขึ้น หรือกลุ่มดาวไหนซุกตัวไปใต้ขอบฟ้าหลังดวงอาทิตย์ตก ซึ่งเรียกตำแหน่งของดวงอาทิตย์บนกลุ่มดาวนั้นว่า “บ้านของดวงอาทิตย์” (House of the Sun)


กลุ่มดาวปลา (Pisces) ลับขอบฟ้าไปพร้อมดวงอาทิตย์ในช่วงต้นเดือนเมษายน ซึ่งหมายถึงเรากำลังอยู่ในราศีมีน

แต่รู้หรือไม่ว่า? มีกลุ่มดาวอีกกลุ่มหนึ่งที่ประพฤติตัวตามนิยามเหล่านี้ทุกประการ แต่ไม่ถูกยอมรับให้เป็นกลุ่มดาวจักรราศี ซึ่งถ้าอิงตามนิยามแล้ว กลุ่มดาวกลุ่มนี้ถือเป็นกลุ่มดาวจักรราศีที่ 13 ที่ถูกลืม (น่าน้อยใจนะ)

คนแบกงู กลุ่มดาวจักรราศีที่ถูกลืม

กลุ่มดาวคนแบกงู (Ophiuchus) เป็นกลุ่มดาวจักรราศีกลุ่มที่ 13 เนื่องจากมีขาข้างหนึ่งแทรกไปในกึ่งกลางระหว่างกลุ่มดาวแมงป่องกับกลุ่มดาวคนยิงธนู กลุ่มดาวคนแบกงูแทนด้วยชายคนหนึ่งกำลังอุ้มงูไว้ ทำให้แยกกลุ่มดาวงูออกเป็นสองส่วน คือ หัวกับหาง

อันที่จริงจะพูดเต็มปากว่ากลุ่มดาวคนแบกงู เป็นกลุ่มดาวจักรราศีน้องใหม่ก็คงจะไม่ถูกนัก นักดาราศาสตร์ชาวอเมริกันชื่อว่า ปาร์ค คังเกิล (Parke Kunkle) เปิดเผยกับสำนักข่าว NBC ว่า จักรราศีที่เชื่อมโยงกับการเคลื่อนที่ของโลกและดวงอาทิตย์นั้น ตลอด 3,000 ปีที่ผ่านมา การส่ายของแกนหมุนของโลก (Precession) หรือการที่แกนหมุนที่ขั้วเหนือนั้นเปลี่ยนไปเมื่อเทียบกับตำแหน่งดวงดาวบนท้องฟ้า ซึ่งใน 1 รอบจะกินเวลาถึง 26,500 ปี ส่งผลให้ตำแหน่งของดวงดาวเคลื่อนไป 1 องศาทุกๆ 70 ปี ซึ่งตอนนี้ตำแหน่งของดวงดาวบนฟ้าเคลื่อนไปจากเดิมกว่า 100 ปีแล้ว และส่งผลให้จักรราศีมีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน

ซึ่งหากจะกำหนดจักรราศีใหม่ให้สัมพันธ์กับกลุ่มดาวบนท้องฟ้า จะต้องเพิ่มราศี “คนแบกงู” (Ophiuchus) ที่เคยเลิกใช้ไปเมื่อ 3,000 ปีก่อน กลับเข้ามาอยู่ในจักรราศีอีกครั้ง ซึ่งถ้าพูดเฉพาะในมุมของดาราศาสตร์ ช่วงเวลาของแต่ละจักรราศีที่ถูกต้องตามตำแหน่งของกลุ่มดาวนั้นจะเป็นดังนี้

กลุ่มดาวแพะ (ราศีมังกร)
20 ม.ค. – 16 ก.พ.
กลุ่มดาวคนแบกหม้อน้ำ (ราศีกุมภ์)
16 ก.พ. – 11 มี.ค.
กลุ่มดาวปลา (ราศีมีน)
11 มี.ค. – 18 เม.ย.
กลุ่มดาวแกะ (ราศีเมษ)
18 เม.ย. – 13 พ.ค.
กลุ่มดาววัว (ราศีพฤษภ)
13 พ.ค. – 21 มิ.ย.
กลุ่มดาวคนคู่ (ราศีเมถุน)
21 มิ.ย. – 20 ก.ค.
กลุ่มดาวปู (ราศีกรกฏ)
20 ก.ค. – 10 ส.ค.
กลุ่มดาวสิงโต (ราศีสิงห์)
10 ส.ค. – 16 ก.ย.
กลุ่มดาวหญิงสาว (ราศีกันย์)
16 ก.ย. – 30 ต.ค.
กลุ่มดาวคันชั่ง (ราศีตุลย์)
30 ต.ค. – 23 พ.ย.
กลุ่มดาวแมงป่อง (ราศีพิจิก)
23 พ.ย. – 29 พ.ย.
กลุ่มดาวคนแบกงู (ราศีคนแบกงู)
29 พ.ย. – 17 ธ.ค.
กลุ่มดาวคนยิงธนู (ราศีธนู)
17 ธ.ค. – 20 ม.ค.
โดยดวงอาทิตย์จะโคจรผ่านกลุ่มดาวคนแบกงูระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 17 ธันวาคม ซึ่งเป็นเวลากว่า 19 วัน มากกว่าช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์โคจรผ่านกลุ่มดาวแมงป่องด้วยซ้ำ!

1 ปีมี 365 วันเท่าเดิม เพิ่มเติมคือ “เดือนคนแบกงู”
ไหนๆเราก็มาพูดถึงช่วงวันของแต่ละราศีขนาดนี้แล้ว คำถามสำคัญที่เกิดตามมาก็คือ แล้วเราจะยังนับจำนวนเดือนใน 1 ปีแบบไหนดี เพราะในประวัติศาสตร์โลกที่ผ่านมา เรามีระบบการนับเดือนหลายแบบตามแต่อารยธรรมของมนุษย์ในแต่ละยุค ซึ่งจำนวนวันในเดือนและจำนวนเดือนในปีไม่ได้เป็นอย่างที่เราคุ้นเคยในปัจจุบัน

ถ้าจะให้พูดกันตามตรง หากจะให้อธิบายการนับวัน เดือน ปีในบทความนี้ น่าจะต้องขอพื้นที่อีกสักร้อยบรรทัด อธิบายง่ายๆก็คือระบบการนับเวลาของชาวโลกนั้น ค่อยๆเหลื่อมกับความเป็นจริงทางดาราศาสตร์ไปเรื่อยๆ ซึ่งเป็นผลมาจากการปัดเศษทิ้งของจำนวนวันที่ดวงจันทร์โคจรรอบโลก (29.530589 วัน ≈ 29.5 วัน) และจำนวนวันที่โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ (365.2587 วัน ≈ 365.25 วัน) แม้ว่าจะมีการพยายามชดเชยวันที่ 366 ทุก 4 ปี แล้ว แต่เศษตัวเลขทั้งหมดนี้ก็เพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ เป็นผลให้เราเริ่มรู้สึกว่า“ทำไมฤดูกาลเริ่มเพี้ยนไปจากวันที่บนปฏิทิน” หากจะให้พูดลงลึกไปถึงระบบปีอธิกสุรทินที่เราเคยได้ยินกันว่ามี “เดือนแปดสองหน” อีกก็จะยิ่งวุ่นวายไปกันใหญ่ (นี่ยังไม่รวมวันอธิกวาร อธิกมาสอีกนะ!) (อ่านเรื่องหลักการนับวันเดือนปีเพิ่มเติมได้ที่นี่)


กลุ่มดาวคนแบกงู ปรากฏชัดเจนกลางท้องฟ้าตามแนวสุริยวิถีในช่วงเวลา 4 นาฬิกาของต้นเดือนเมษายน (ราศีมีน)

จริงๆแล้วนี่เป็นเพียงข้อสังเกตเท่านั้นเอง ว่าถ้าหากเราใช้วิธีการนับเดือนตามการเคลื่อนที่ไปประจำตำแหน่งจักรราศีใดของดวงอาทิตย์ให้ถือว่าเราอยู่บนราศีนั้น ทำให้ในอดีตเรามี 12 เดือนใน 1 ปี (เลข 12 เข้ามามีบทบาท ณ จุดๆนี้) แต่จากการเคลื่อนที่ของโลกกับดวงอาทิตย์และการที่แกนหมุนของโลกเปลี่ยนแปลงไปตามที่ได้อธิบายไปแล้ว ทำให้ “ขาของคนแบกงู” ทิ่มแทรกเข้ามาในเส้นสุริยวิถีระหว่างกลุ่มดาวแมงป่องและคนยิงธนู ทำให้เรามีจักรราศีเพิ่มขึ้นมา จึงเกิดคำถามที่ว่าเราควรที่จะต้องแบ่งเดือนใหม่ให้เท่าเทียมกันแบบที่ทำกับการแบ่งจักรราศีทั้ง 13 ราศีนี้หรือไม่ แล้วเราจะตั้งชื่อเดือนคนแบกงูว่าอะไรดี?

คนแบกงู บุคคลที่ทั่วโลกยังไม่ยอมรับ
อย่างไรก็ดี การเพิ่มจักรราศีที่ 13 นี้ยังไม่ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการ เพราะนอกจากความขัดแย้งกันของการยึดหลักตามวิทยาศาสตร์และโหราศาสตร์แล้ว ยังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าหากยอมรับเอาราศีที่ 13 นี้เข้ามาในการนับจักรราศีแล้ว วิธีการนับเดือนตามแบบสุริยคติ จะต้องเปลี่ยนแปลงจาก 12 เป็น 13 เดือนหรือไม่ แล้วเด็กที่เกิดใหม่หรือคนที่เกิดก่อนหน้านี้ จะต้องเปลี่ยนแปลงราศีหรือไม่ และยึดราศีใดในการดูดวงชะตา (ชักจะนอกเรื่องแล้วสิ)

แต่ในความเป็นจริง ทุกศาสตร์ย่อมมีวิธีการหรือหลักในการยึดถือแตกต่างกัน เพราะถึงหลักโหราศาสตร์จะยังยึดการนับราศีตามเดิม หลักวิธีการที่ใช้ในการคำนวณหรือทำนายการโคจรของดวงดาวนั้นก็ไม่ใช่หลักเดียวกันกับที่นักดาราศาสตร์ใช้ และการเปลี่ยนแปลงไปของดวงดาวในลักษณะนี้ ก็ไม่ได้ทำให้ความแม่นยำในการทำนายของนักโหราศาสตร์ต่างไปจากเดิมแม้แต่น้อย

https://soscity.co/space/ophiuchus-a-new-zodiac/

 

เตือนภัย พิบัติโลก


20/1/2562 อัศจรรย์ธรรมชาติ! ‘ทะเลทรายโกบี’ ปกคลุมด้วยหิมะแรกของปี 2019

.

ชมภาพที่ถูกบันทึกไว้เมื่อเร็วๆ นี้ กับภาพยามหิมะแรกของปี 2019 ปกคลุมทะเลทรายโกบี อันเป็นที่ตั้งของแหล่งท่องเที่ยวมรดกโลกอย่างทะเลสาบจันทร์เสี้ยว เมืองตุนหวง มณฑลกานซู่ นับเป็นความโชคดีของนักท่องเที่ยวที่จะได้เห็นปรากฏการณ์หิมะตกในทะเลทราย

cr.China Xinhua News

 

John Traczyk


โลกได้สูญเสียโล่ของพวกมัน (สนามแม่เหล็กโลก) อย่างน้อยสองครั้ง(ในช่วงน้ำท่วมและเวลาของการอพยพ Exodus )ตอนนี้... ครั้งที่สามกำลังมา


วีดีโอ

PLASMA DISCHARGE Petroglyphs อายุ 400 ปีที่พบบนชายฝั่งฮาวาย

 

แผ่นดินไหว ขนาด 6.7 - 15km SSW ของ Coquimbo, ประเทศชิลี


วันที่ 20 มกราคม 2562 เวลา 08:32:51 น. ไทย

(2019-01-20 01:32:51 (UTC))

พิกัด 30.074 ° S 71.423 ° W

ความลึก 53.0 กม


https://earthquake.usgs.gov/earthquakes/eventpage/us2000j6hy/executive

 

Watchers


#Earthquake

20/01/19

เวลา 08:32 น. ตามเวลาไทย

แผ่นดินไหว แมกนิจูด 6.7

ความลึก 53 กม.

พิกัด 71.32°W 30.02°S

ประเเทศชิลี


https://earthquake.usgs.gov/earthquakes/eventpage/us2000j6hy/executive


08:39 PWTC ออกเอกสารฉบับที่ 1 ไม่เตือนสึนามิ จากแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ที่ประเทศชิลี


link: https://ptwc.weather.gov/ptwc/text.php?id=pacific.TIBPAC.2019.01.20.0139

Via;USGS,THQuake

#Watchers

 

Watchers


#Earthquake

วันที่ 20 มกราคม 2562

เวลา 07:32 น. ตามเวลาประเทศไทย


แผ่นดินไหว ประเทศลาว

พิกัด(20.94,101.66)

ขนาด 2.8

ความลึก 10 กม.

ทิศตะวันออกเฉียงเหนือของ ต.ริมโขง อ.เชียงของ จ.เชียงราย ประมาณ 150 กม.

[TMD] (link: http://dlvr.it/Qx3w6M)

#Watchers

 

Clima Extremo 24


สหรัฐอเมริกา



ความเสียหายมากมายหลังจากสัมผัสพายุทอร์นาโดที่ลงสู่พื้นดินในเมือง Wetumpka, Alabama ในบ่ายวันนี้

 

Clima Extremo 24


สหรัฐอเมริกา



ภาพความเสียหายเพิ่มเติมที่เกิดจากพายุทอร์นาโดที่แตะพื้นในเมือง Wetumpka รัฐ Alabama ในบ่ายวันนี้

 

Clima Extremo 24


อเมริกาเหนือ


แบบจำลองระบุว่าจะมีคลื่นขั้วโลกอาร์ติกที่หนาวเย็น ที่จะส่งผลกระทบต่อสหรัฐอเมริกาและเม็กซิโกในสัปดาห์หน้าโดยมีอุณหภูมิเยือกแข็งสูงถึงต่ำกว่าศูนย์