ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,823
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Anthony Costello

    IMG_8046.JPG
    การแข่งขันออสเตรเลีย โอเพ่น....


    ไปดูฟ้ามา....


    ไหม้แล้วววว.


     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,823
    ค่าพลัง:
    +97,150
    John Traczyk


    20 ม.ค. 2019 ลมแห่งจักรวาลลดน้อยลง


    สำหรับครั้งแรกในรอบ 16 วันนับตั้งแต่เหตุการณ์ต่อเนื่องนี้เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2562 ลมของจักรวาลไม่ได้เกิน 1,000 กิโลเมตร / วินาทีเมื่อวานนี้


    อย่างไรก็ตามแรงกดดันด้านบนและด้านนอกที่รุนแรงยังคงอยู่ และความเร็วนั้นสูงถึง 710 km / s ที่ 04:15:05 เมื่อ 20 มกราคม 2562 (21:15:05 เมื่อ 1/19/2019)โดยมีการรบกวนเส้นสนาม (แม่เหล็ก)

    IMG_8048.JPG IMG_8049.JPG IMG_8050.JPG IMG_8051.JPG

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,823
    ค่าพลัง:
    +97,150
    บางทีกระแสลมกาแล๊กติก ที่ลดลงอาจจะเพราะ ดาวเคราะห์น้อย AB5 ไปขวางไว้ก็ได้ ต้องรอดูค่าของวันนี้ ทุกองค์ประกอบในวัฏฏะเชื่อมโยงกัน มีเหตุ ก็เกิดผล

    IMG_8052.PNG

    ที' นะคับ-


    NASA asteroid WARNING: Giant 154ft asteroid found barreling on 'Earth approach'


    NASA เตือน: พบดาวเคราะห์น้อย 154 ฟุตยักษ์ จะพุ่งชนเข้าใกล้ชั้นบรรยากาศของ' โลก' วันพรุ่งนี้(ตามเวลาของ NASA UTC) ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าดาวเคราะห์ดังกล่าว เคลื่อนเข้าใกล้โลกแล้ว


    นักวิทยาศาสตร์ของนาซ่าคาดว่าดาวเคราะห์น้อย AB5 ให้เรียกว่า "โลกปิดแนวทาง" ประมาณ 10.55 pm GMT ในระหว่างนี้ flyby ดาวเคราะห์น้อยจะถึงระยะห่างไปได้ใกล้เคียงที่สุดในโลกเป็นครั้งแรก และสุดท้ายอาจจะในวงโคจรของมัน


    ซึ่งคาดว่าเมื่อผ่านมายังชั้นบรรยากาศโลก ดาวเคราะห์จะถูกเผาไหม้อย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจจะเป็นอุกกาบาต ตกมายังพื้นโลกในที่สุด


    VIA: https://ssd.jpl.nasa.gov/sbdb.cgi?sstr=2019 AB5&orb=1


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มกราคม 2019
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,823
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จันทรคราส (เต็มดวง) 21 มกราคม เวลา 12:17 น. ไม่เห็นในประเทศไทย

    IMG_8053.JPG

    คราสที่ 2 คือจันทรคราส (เต็มดวง) 21 มกราคม เวลา 12:17 น. ที่ 6:44 องศากรกฎ กรกฎคือเรือนจันทร์ จันทร์คือประชาชน จันทรคราสเกิดในราศีตัวเองและ 90 มฤตยูเมษ ภาคประชาชนตื่นตัวทางการเมือง กรกฎหมายถึงงานบริการ ธุรกิจบริการ เช่น อาหาร ท่องเที่ยว ที่สร้างสรรค์แปลกใหม่ จะดีไป 6 เดือน กรกฎเป็นแม่ธาตุน้ำ จุดคราสเข้ารูปT-square กับอาทิตย์-ราหู-มฤตยู ระวังอุบัติเหตุเภทภัยเกี่ยวกับน้ำหรือสถานที่ใกล้น้ำ

    จุดคราสทับพุธ-เล็งพลูโตในดวงเมืองอเมริกาสนิท การใช้อำนาจข่มขู่ผู้อื่นจะเกิดแรงโต้กลับ คราสเล็งจันทร์มังกรในดวงเมืองจีน รัฐกระตุ้นกำลังซื้อประชาชนและเศรษฐกิจภายในประเทศ คราสยังทับจันทร์และ 90 อาทิตย์ในดวงเมืองไทย ประชาชนตื่นตัวกับการเลือกตั้ง


    http://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/646269


    ภาพFull moon in Switzerland ❤️❤️❤️ จาก เฟสบุ๊ค Chill Nature
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,823
    ค่าพลัง:
    +97,150
    La nueva era de la tierra - respaldo

    IMG_8054.JPG
    ทุกวัน หมีขั้วโลกกำลังจะตายมากขึ้นเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ


     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,823
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24


    ชิลี



    การพังทลายของก้อนหินบนถนนหลังจากแผ่นดินไหว ขนาด 6.7 ใน Tongoy ประเทศ Chile เมื่อคืนที่ผ่านมา รายงาน มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีอาฟเตอร์ช๊อก แล้ว 30 ครั้ง
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,823
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24


    อาร์เจนตินา



    น้ำท่วมหนักที่เกิดจากฝนที่ไม่หยุด..หยุด


    น้ำท่วมฉับพลันทำให้เกิดความเสียหายและสร้างปัญหาสำหรับผู้อยู่อาศัยในหลายพื้นที่ของอาร์เจนตินา ซึ่งอยู่ในภาวะฉุกเฉิน
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,823
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24


    อาร์เจนตินา



    หลังจากฝนตกหนัก ได้ทำให้เกิดอุทกภัยในหลายพื้นที่ของอาร์เจนตินา อย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ทำให้มีผู้อพยพมากกว่า 8,000 คน


    หลายพื้นที่ของอาร์เจนตินากำลังประสบปัญหาน้ำท่วมเมื่อเผชิญกับน้ำท่วมหนักในภูมิภาค Litoral เนื่องจากมีฝนตกหนักในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา


    จากสื่อท้องถิ่นพบว่ามีผู้คนกว่า 8,000 คนอพยพออกจากพื้นที่ต่าง ๆ ในจังหวัด Entre Ríos, Santa Fe, Chaco และ Corrientes ในสองพื้นที่สุดท้ายนี้จำนวนผู้อยู่อาศัยที่จำเป็นต้องอพยพ มีจำนวนเกือบ 3,000 คน ดังที่ Emilio Renda ได้รับการยืนยันจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการป้องกันพลเรือน วันที่ 17 มกราคม


    Renda ซึ่งเป็นหัวหน้าของระบบการจัดการความเสี่ยงแบบครบวงจรได้แจ้งว่ากองกำลังความมั่นคงในท้องถิ่นต่าง ๆ มีส่วนร่วมในการให้ความช่วยเหลือและการย้ายถิ่นฐาน องค์กรพัฒนาเอกชนหลายแห่งในประเทศเรียกร้องให้ประชาชนบริจาคเงินและจัดหาผลิตภัณฑ์และเสื้อผ้าที่ไม่เปื่อยยุ่ย


    ทางตอนเหนือของจังหวัดซานตาเฟน่านน้ำทำให้เกิดการล่มสลายของส่วนของเส้นทางภายใน 1 ซึ่งเป็นบางส่วนที่พิการ ดังที่ได้รับรายงานนอกเหนือไปจากปรากฏการณ์สภาพภูมิอากาศแล้วสถานการณ์ยังทวีความรุนแรงขึ้นโดย "การที่เกิดน้ำไหลตามธรรมชาติซึ่งสะสมไว้ในบริเวณใกล้เคียง"


    ใน Resistencia เมืองหลวงของจังหวัด Chaco มีปริมาณน้ำฝนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ (526 มิลลิเมตร) นับตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมตามTelevisiónPública อาร์เจนตินา การไหลบ่าของน้ำที่ช้า ทำให้ครอบครัวที่ได้รับผลกระทบกลับบ้านได้ช้าขึ้น และส่งผลกระทบต่อพืชและสัตว์ในพื้นที่ปศุสัตว์
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,823
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24


    อาร์เจนตินา



    น้ำท่วมทำให้เกิดความหิวโหยใน Chaco, Corrientes และ Santa Fe ท่ามกลางจังหวัดที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากฝนตก ย่านที่ขาดแคลนที่สุดคือย่านที่ยากที่สุด นี่คือวิธีที่พวกเขาเลี้ยงลูกของ Merendero de Las Breñas, Chaco
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,823
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24


    MEXICO



    ยอดผู้เสียชีวิตยังคงเพิ่มขึ้นต่อไป หลังจากการระเบิดท่อ Pemex ในเม็กซิโก


    จำนวนผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของการระเบิดท่อ Pemex ใน Tlahuelilpan Hidalgo เพิ่มขึ้นเป็น 79 คน


    ในการแถลงข่าว Jorge Alcocer รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขอธิบายว่า 81 คนได้รับการรักษาในโรงพยาบาลเนื่องจากการระเบิดซึ่ง: 66 คนเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 12 คนเสียชีวิต 2 คนได้รับการปล่อยกลับ (น่าจะออกจากโรงพยาบาล)


    ในคำปราศรัยของเขาอัยการสูงสุดของประเทศ Alejandro Gertz Manero กล่าวว่าไม่มีสมมติฐานใดที่จะทำให้เกิดการระเบิดได้ เขากล่าวว่าสิ่งที่แสดงออกเมื่อวานนี้เกี่ยวกับความเสียดทานที่เป็นไปได้ของเสื้อผ้าเป็นเพียงความเป็นไปได้ แต่ไม่ใช่ผลลัพธ์สุดท้ายของการสอบสวน


    ประธานาธิบดีชาวเม็กซิกันแอนเดรสมานูเอลโลเปซโอบราเดอร์ระบุว่า Alejando Gertz Manero อัยการสูงสุดของสาธารณรัฐควรปฏิบัติตนอย่างอิสระและไม่ถูกครอบงำ และให้รายละเอียดของกระบวนการสอบสวนอย่างโปร่งใส
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,823
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อาเซียน360องศา


    Mexico : เม็กชิโก ตอนนี้เพลิงเผาเสียชีวิตไปแล้ว 79 ศพสาเหตุจากท่อส่งน้ำมันรั่ว (เจ้าหน้าที่เม็กซิโกแจ้ง ผู้รอดชีวิต จะไม่ถูกดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์ เพราะว่าทุกคนโดนพิพากษาจากพระเจ้าแล้ว) ประชาชนไปรองน้ำมันตามรอยรั่วแล้วเกิดประกายไฟ เพลิงไหม้ระเบิดรุนแรงมาก ยอดเสียชีวิตอาจพุ่งมากกว่านี้ เบื้องต้นพบผู้โดนเพลิงไหม้และบาดเจ็บอีก 76 คน


    แอดจะลงคลิปใต้เม้นต์ ตั้งแต่ก่อนเพลิงไหม้

    ลำดับเหตุการณ์ ตามนั้น

    ข้อมูลจากสื่อเม็กซิโกแจ้งว่ามีมีชาวบ้านไปรองน้ำมัน 600-800 คน ตั้งแต่ท่อรั่ว


    อัพเดทยอดผู้เสียชีวิต 22.00 น 79 ศพ สูญหาย 71 คน บาดเจ็บ 81 คน (อ้างอิงBBC News Mundo)

    อัพเดท 14.00 พบขี้เถ้าซากมนุษย์ ที่ระบุตัวตนไม่ได้อีก 54-59 ศพ ต้องใช้กระบวนการทางนิติวิทย์ฯ แต่มันก็เป็นเรื่องยากเพราะไฟได้ไหม้เนื้อเยื้อต่างๆจนเป็นผง

    เจ้าหน้าที่ Pemex บ.น้ำมัน แถลงท่อส่งก๊าซ Tuxpan-Tula ที่ระเบิดในเมือง Tlahuelilpan และเมือง Hidalgo โดนชาวบ้านแอบเจาะนับสิบครั้ง

    ในช่วง 3เดือนที่ผ่านมา

    ท่อน้ำมันรั่ว เกิดจากการเจาะลักลอบ ในพื้นที่มีการขโมยน้ำมันมานานแล้ว /

    IMG_8055.JPG IMG_8056.JPG IMG_8057.JPG IMG_8058.JPG IMG_8059.JPG

    RIP.


    ข้อมูลข่าว RT


     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,823
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Watchers
    IMG_8060.JPG
    ภาพทางธรณีวิทยา ของชิลี

    เกิดอาฟเตอร์ช็อก ระลอก เหตุการณ์ปกติหลังจากแผ่นดินไหวแข็งแกร่งบนชายฝั่งตอนกลางของชิลี #Chile M6.7 โดยมุดตัวจากแผ่น Nazca และ.แผ่นอเมริกาใต้

    โปรดจำไว้ว่าแผ่นดินไหวไม่สามารถทำนายได้ ต้องมีความรับผิดชอบและไม่แพร่กระจาย "การหลอกลวง"


     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,823
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Watchers

    #Earthquake
    IMG_8061.JPG
    รายงานแผ่นดินไหวใกล้ไทย (ลำดับเวลา)

    วันที่ 20 ม.ค. 2562

    เวลา 22:06 น. ตามเวลาประเทศไทย

    แผ่นดินไหวขนาด 5.2

    Xizang ประเทศจีน

    (30.41,87.89)

    ลึก 9.6 กม.


    https://earthquake.usgs.gov/earthquakes/eventpage/us2000j6mf/executive


    แถว Mayotte คือภูเขาไฟเก่าแก่ดึกดำบรรพ์ที่แอดมินได้ลงไว้

    ขนาด 4.8 ลึก 10 กม.

    https://earthquake.usgs.gov/earthquakes/eventpage/us2000j6l8/executive

    #Watchers


     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,823
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24

    อาฟริกา



    ไวรัสอีโบลาที่คร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 400 คนจาก 629 คนที่ติดเชื้อในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกกลายเป็นการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,823
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Sismologia Mundial



    ⚠️VIDEO | ความเสียหายรุนแรงได้รับการจดทะเบียนในอาคารที่ Avenida del Mar ซึ่งตั้งอยู่ในเมือง La Serena, ภูมิภาค Coquimbo - ประเทศชิลีโดย Fuerte Sismo M6.7


    วิดีโอ backi15
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,823
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ImpactoVisión Noticias


    #URGENTE


    แหล่งข่าวซีเรียบอกว่านี่คือหนึ่งในการโจมตีที่ใหญ่ที่สุดของอิสราเอลในซีเรีย

    IMG_8062.JPG IMG_8063.JPG IMG_8064.JPG IMG_8065.JPG IMG_8066.JPG IMG_8067.JPG

    Kike90...


     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,823
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    10pcVuR26mZ30pVAXBN4AXHF08cvggPW61nnNyeWxg8l2hAFBt4HSZCMHhiuCVPl82TYGk5Q&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.png

    (Jan 20) ห่วงเศรษฐกิจสะดุด : ยังไม่ทันจะผ่านพ้นเดือนแรกของ ปี 2562 ภาพรวมเศรษฐกิจไทยก็ดูท่าจะไม่รุ่งพุ่งแรงเหมือนปีที่ผ่านมา และไม่เป็นไปตามที่ใครหลายคนอยากให้เป็น เห็นได้จากตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ที่หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ให้ไว้ไม่ได้โตเหมือนปี 2561 ที่มากกว่า 4%

    หลายหน่วยงานได้ออกมา คาดการณ์ตัวเลขจีดีพีปีนี้ใหม่ เริ่มต้น ที่ เกียรติพงศ์ อริยปรัชญา นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสประจำประเทศไทย ธนาคารโลก ที่คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจไทยจะขยายตัว ลดลงมาอยู่ที่ 3.8% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ 3.9% ตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลก และการเติบโตต้องพึ่งพาการบริโภคจากภายในประเทศเป็นหลัก เพราะการส่งออกได้รับผลกระทบจากอุปสงค์ของตลาดโลกที่ลดลง

    "ธนาคารโลกได้ประเมินภาวะเศรษฐกิจไทยในปีนี้ไว้ที่ 3.8% ภายใต้สมมติฐานไม่มีเหตุความวุ่นวายทางการเมืองเกิดขึ้นจากการเลือกตั้ง แต่หากมีความวุ่นวายเกิดขึ้นจริง ก็ถือว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงทางเศรษฐกิจ เพราะจะ ส่งผลให้การลงทุนภาครัฐชะลอตัว การเบิกจ่ายภาครัฐอาจจะลดต่ำลงได้อีกจากที่ต่ำกว่าเป้าหมายเป็นปกติ อยู่แล้ว" เกียรติพงศ์ กล่าว

    ขณะที่ กระทรวงการคลัง อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ผู้ดูแลภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ ก็ออกมาบอกว่า คลังประมาณการเศรษฐกิจปี 2562 จะขยายตัวได้ 4% ซึ่งจะขยายตัวได้น้อยกว่าปีก่อนหน้า เพราะมีปัจจัยลบทางเศรษฐกิจมากขึ้น ทั้งสงครามการค้า จะกระทบกับการส่งออกของประเทศรุนแรงมากขึ้น รวมถึงการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ทำให้นักลงทุนไม่เชื่อมั่นชะลอการลงทุน กระทบกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจไม่น้อย

    ด้าน คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) มองจีดีพีปีนี้ จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 4% หรือในกรอบ 4-4.3% จากการใช้จ่ายและการลงทุนในประเทศ ทั้งการลงทุนภาครัฐและภาคเอกชน โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐ เพราะหากรัฐลงทุนแล้ว ภาคเอกชนก็จะลงทุนตามมา

    ยรรยง ไทยเจริญ รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุด Economic Intelligence Center (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ได้มีการปรับประมาณการจีดีพีลดลงเหลือ 3.8% จากเดิม 4.2% ผลมาจากความผันผวนของเศรษฐกิจ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน แต่ไทยยังมีแรงหนุน จากการใช้จ่ายภายในประเทศ อย่างการลงทุนของภาครัฐ ที่ขยายตัวและ มีความชัดเจนมากขึ้น

    กอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย ก็มองว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้เติบโตชะลอลงเหลือ 4% โดยมีปัจจัยเสี่ยงต้องติดตามคือ เรื่องสงคราม การค้าระหว่างสหรัฐกับจีนที่นักลงทุนกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐกับจีนชะลอ ตัวลง และมีผลกดดันส่งออกไทยให้ขยายตัวได้เพียง 4.5%

    ด้าน ธนาคารกรุงไทย รุ่ง มัลลิกะมาส รองกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ ก็ประมาณการอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจเติบโต 4.1% ชะลอลงจาก 4.3% ปี 2561 ซึ่งประมาณการดังกล่าวคำนึงถึงผลกระทบจากสงครามการค้าไปแล้ว เพราะไทยอยู่ในห่วงโซ่การผลิตจีน แต่ไม่ใช่จะกระทบทั้งหมด

    การเติบโตของเศรษฐกิจไทย จะเห็นได้ว่า ส่วนใหญ่มาจากปัจจัยในประเทศ หรือไส้ในของเศรษฐกิจที่ยังมีความแข็งและทำให้ประเทศเติบโตได้อย่างมีศักยภาพ จากการบริโภค การลงทุนที่เกิดขึ้นและคาดว่าจะเกิดขึ้นทั้งของภาครัฐและภาคเอกชน เป็นหลัก

    และหากมีการเลือกตั้งแน่นอน จะสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน เข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้นได้อีกทาง แต่การเลือกตั้งจะต้องไม่ล้ม หรือถูกยกเลิก การเบิกจ่ายงบประมาณ การจัดซื้อ จัดจ้างของโครงการขนาดใหญ่ได้เริ่มลงมือทำ เห็นอย่างเป็นรูปธรรม

    ตัวเลขจีดีพีที่ออกมา แม้จะบ่งชี้ทิศทางของเศรษฐกิจไทยว่าจะเติบโต ได้มากน้อยแค่ไหน แต่กลับกัน หากปัจจัยลบต่างประเทศ ยังไม่มีแนวโน้ม ดีขึ้น เศรษฐกิจไทยจะเป็นอย่างไร...

    ทั้งนี้ การปรับลดประมาณการ จีดีพีของทุกสำนัก ส่วนใหญ่มาจากความวิตกกังวลในเรื่องของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน และเศรษฐกิจโลกเป็นหลัก ซึ่งจะส่งผลต่อการส่งออก ฟันเฟืองหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโต ปัญหาความไม่สงบในยูโรโซนที่ คอยฉุดกระชากการเติบโตของเศรษฐกิจโลกได้ทุกเมื่อ

    ความไม่แน่นอนและความเสี่ยง ที่อาจจะเกิดขึ้น แม้แต่ธนาคารแห่งประเทศไทย ยังยอมรับว่าเป็นปัจจัย ที่อยู่นอกเหนือการควบคุม และควบคุมได้ยากมาก แม้เสถียรภาพทางการเงินจะยังคงอยู่ในระดับที่ดีก็ตาม

    เศรษฐกิจที่ยังไม่มีความชัดเจนเช่นนี้ โดยเฉพาะเศรษฐกิจโลก อาจจะส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นราคาหุ้นและค่าเงิน เงินทุนไหลเข้าไหลออก จึงถือเป็นเรื่องยากสำหรับการดำเนินธุรกิจ

    แต่หากมองให้ลึก แม้อาจจะมีความเสี่ยงจากวิกฤตที่อาจจะเกิดขึ้น แต่ผู้ประกอบการก็ยังมีโอกาสให้รอด เพียงแค่ปรับตัวและเตรียมพร้อมรับมือเหตุการณ์ต่างๆ ล่วงหน้า

    ผู้ประกอบการไทยต้องเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุน ติดตามภาวะตลาดโลก และตลาดในประเทศอย่างใกล้ชิด ให้น้ำหนักกับภาพรวมเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น จนอาจถึงขั้นวางแผนทิศทางการทำธุรกิจใหม่ เพราะไม่ว่าจะผู้ประกอบการขนาดใหญ่ ขนาดเล็ก ระดับไหนก็ล้วนแล้วแต่ได้รับผลกระทบทั้งนั้น หากเศรษฐกิจแย่

    ดังนั้น เพื่อป้องกันตัวเองให้ บาดเจ็บน้อยที่สุด ผู้ประกอบการ อาจจะยอมปิดความเสี่ยงจากอัตรา แลกเปลี่ยนในการทำธุรกิจต่างประเทศจากการทำประกันความเสี่ยง การจองสัญญาซื้อหรือขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า (Forward Contract) หรือการตกลงซื้อสิทธิที่จะซื้อหรือขายเงินตราต่างประเทศในอนาคต (Option Contract) ป้องกันการขาดทุนจาก ค่าเงินที่ผันผวน และแข็งค่าขึ้น

    อีกทั้ง ก่อนตัดสินใจลงทุนจะต้องดูทิศทางลมให้ดี ดูแลกระแสเงินสดให้เพียงพอเพื่อไม่ให้กระทบต่อธุรกิจได้ หากอะไรๆ ไม่เป็นอย่างคาดหวัง เพราะหากหวังพึ่งพาคนอื่น เวลาเข้าตาจน ตัวเองอาจจะไม่ใช่ผู้โชคดี ที่รอดพ้นจากสถานการณ์นั้นได้ ...อย่างไรเสีย กันไว้ดีกว่าแก้ก็ดีกว่า แย่แล้วหมดตัว...

    โดย กัลย์ทิชา นับทอง

    Source: Posttoday
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,823
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    XBSp0r_zQaz926X46jRsytBvNPlctBx_ECU-XTYC3Kmh_8ntJv9hC3ORF-_V9kH0up44K0Dw&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg

    (Jan 20) วิกฤติในประเทศบีบผู้นำโลกงดร่วม'ดาวอส' : สารพัดวิกฤติที่ รุมเร้าหลายประเทศจะทำให้ผู้นำโลกหลายคน ไม่ไปร่วมงานประชุม "เวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม" (ดับเบิลยูอีเอฟ) ที่เมืองดาวอสของสวิตเซอร์แลนด์ในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะมีขึ้นท่ามกลางความซบเซาที่ฝังรากลึกเกี่ยวกับแนวโน้มทางเศรษฐกิจและการเมืองทั่วโลก

    ความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อขัดแย้งทางการค้า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ไม่ราบรื่น การออกจากสหภาพยุโรปของ สหราชอาณาจักร (เบร็กซิท) และภาวะชะลอตัว ของการเติบโตที่บางส่วนเกรงว่าอาจทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะตกต่ำ มีแนวโน้มที่จะเป็นหัวข้อสำคัญในการประชุมระหว่างวันที่ 22-25 ม.ค.นี้ และน่าจะทำให้บรรยากาศการประชุมอึมครึมไปด้วย

    รายงานความเสี่ยงโลกของดับเบิลยูอีเอฟ ที่เผยแพร่ในสัปดาห์นี้ ได้เตือนถึงบรรดาอุปสรรคทางเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นในปีนี้ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือความตึงเครียดทางภูมิศาสตร์การเมืองระหว่างชาติมหาอำนาจด้วยกัน

    เหล่าผู้นำภาคธุรกิจ ภาครัฐ และ ภาคประชาสังคมราว 3,000 คนเตรียมจะเข้าร่วมการประชุมที่รีสอร์ทบนเขาอัลไพน์ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ แต่ในจำนวนนี้มีเพียง 3 คน ที่เป็นผู้นำกลุ่ม 7 ประเทศอุตสาหกรรม ขนาดใหญ่ หรือ "จี 7" อย่างนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะของญี่ปุ่น นายกรัฐมนตรี แองเกลา แมร์เคิลของเยอรมนี และ นายกรัฐมนตรีจูเซปเป คอนเตของอิตาลี

    ขณะที่โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ซึ่งสร้างความฮือฮาในการประชุมดาวอสเมื่อปีก่อนเพราะประธานาธิบดีสหรัฐที่อยู่ในตำแหน่งส่วนใหญ่มักไม่ไปร่วมงานดังกล่าว ได้ประกาศถอนตัวจากการประชุมในปีนี้ เนื่องจากเขาต้องอยู่แก้ปัญหาหน่วยงานรัฐบาลบางส่วนปิดทำการ หรือ "ชัตดาวน์" ในประเทศ

    นอกจากนั้น ทรัมป์ยังสั่งยกเลิกแผนการเดินทางของคณะผู้แทนสหรัฐที่จะไปเข้าร่วมการประชุมนี้ เนื่องจากขณะนี้ มีลูกจ้างของหน่วยงานรัฐบาลกลางราว 8 แสนคน ยังไม่ได้รับค่าจ้าง และคณะ เจ้าหน้าที่ของสหรัฐควรจะอยู่ในประเทศเพื่อให้ความช่วยเหลือหากจำเป็น

    เดิมนั้น คณะผู้แทนสหรัฐที่มีกำหนดจะเดินทางไปเข้าร่วมประชุมครั้งนี้ประกอบไปด้วยสตีเฟน มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ วิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ โรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ และคริส ลิดเดล ผู้ช่วยประธานาธิบดี

    ส่วนประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส ก็งดเข้าร่วมประชุมครั้งนี้ เช่นกัน เนื่องจากกำลังหาทางรับมือกลุ่ม ผู้ประท้วง "เสื้อกั๊กเหลือง" ขณะที่นายกรัฐมนตรี เทเรซา เมย์ของอังกฤษต้องดิ้นรนหาทางออกกรณีเบร็กซิท

    นอกจากกลุ่มจี7 แล้ว บรรดาผู้นำของรัสเซียและอินเดียต่างเลี่ยงที่จะร่วมประชุม ดาวอสด้วย ขณะที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงซึ่งเป็นผู้นำจีนคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ เข้าร่วมประชุมดาวอสเมื่อปี 2560 เพื่อประกาศสนับสนุนการค้าเสรีอย่างจริงจัง จะส่งรองประธานาธิบดีเข้าร่วมแทนในปีนี้

    ด้วยเหตุนี้บรรดานักการเมืองอย่างฟิลิป แฮมมอนด์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง อังกฤษ หวัง ฉีซาน รองประธานาธิบดีจีน และประธานธนาคารกลางประเทศต่างๆ มีภารกิจใหญ่ที่จะต้องเรียกความเชื่อมั่นจากบรรดาผู้นำภาคธุรกิจให้ได้

    "การประชุมดาวอสจะปกคลุมไปด้วยกระแสวิตกอย่างมากเกี่ยวกับตลาดหุ้น การเติบโตชะลอตัว และการเมืองระหว่างประเทศ" นาริมัน เบห์วาเรช หัวหน้า นักเศรษฐศาสตร์ของบริษัทไอเอชเอส มาร์คิต กล่าว และว่า "ในปีนี้มีผู้นำไปร่วมงาน น้อยกว่าปีที่แล้ว แต่ผู้ที่ไปเข้าร่วมงานแทนตั้งแต่แฮมมอนด์ไปจนถึงบรรดาผู้ว่าการ ธนาคารกลางและอาเบะ จะหาทางปลุกความเชื่อมั่นและคลายความกังวลของภาคธุรกิจและนักลงทุน"

    ก่อนหน้านี้ ทรัมป์วิจารณ์ความเป็น โลกาภิวัตน์อย่างรุนแรง และตั้งคำถามเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของสหรัฐในสถาบันพหุภาคีต่างๆ อย่างองค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) พร้อมเรียกร้องให้มีการปรับปรุงหลักเกณฑ์ การค้าระหว่างประเทศใหม่

    บรรดานักสังเกตการณ์ดาวอส ระบุว่า การไร้เงาผู้นำแถวหน้าหลายคนในปีนี้ ไม่ได้หมายความว่าการประชุมครั้งนี้สูญเสีย ความน่าดึงดูดในฐานะเวทีระดับโลกสำหรับบรรดานักการเมืองชั้นนำในการประกาศวาระของตน

    "อาเบะจะไปร่วมประชุมที่ดาวอส ไม่ใช่ในฐานะนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเท่านั้น แต่รวมถึงในฐานะประธานกลุ่มจี20 ด้วย" แหล่งข่าวในรัฐบาลญี่ปุ่นซึ่งเกี่ยวข้องกับกิจการระหว่างประเทศเผยกับรอยเตอร์ และว่า "นี่จะเป็นโอกาสที่เหมาะสมที่สุดในการวางรากฐานสู่การประชุมจี20 ที่กำลังจะมาถึง"

    แหล่งข่าวรายเดิมเสริมว่า แน่นอนว่าอาจมีความยุ่งยาก เช่น การพลาดโอกาสจัดประชุมระดับทวิภาคี แต่ก็ไม่ได้ทำให้การประชุมดาวอสมีความสำคัญน้อยลง ขณะที่เจ้าหน้าที่จีนรายหนึ่งซึ่งเข้าร่วมประชุมที่ดาวอสบ่อยครั้ง แต่ไม่ได้ไปร่วมในปีนี้ กล่าวว่า จีนไม่เคยคาดหวังที่จะใช้การประชุมนี้หาทางออกเกี่ยวกับความ ขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐ "นี่เป็นเพียงโอกาสสำหรับการประกาศนโยบายของรัฐบาลเท่านั้น"

    นอกจากนั้น การที่บรรดาผู้นำชาติตะวันตก รายสำคัญเข้าร่วมประชุมดาวอสน้อยลง อาจเป็น โอกาสเฉิดฉายของเหล่านักการเมืองที่อาจไม่โดดเด่นในการประชุมครั้งก่อนๆ

    การประชุมดาวอสปีนี้จะเป็นภารกิจ ต่างประเทศสำคัญครั้งแรกของประธานาธิบดีชาอีร์ โบลโซนาโร ผู้นำบราซิลที่ชนะการเลือกตั้ง เมื่อปลายปีที่แล้ว ท่ามกลางกระแสต่อต้านระบบหรือสถาบันแบบเดิม ๆ และชาตินิยมหัวอนุรักษ์ที่ขยายตัวในหลายพื้นที่ทั่วโลก

    โบลโซนาโร เคยทวีตว่า เขาจะทำให้บราซิลแตกต่างไปจากเดิม ปลอดความสัมพันธ์เชิงอุดมการณ์และการทุจริตวงกว้าง

    สำหรับบรรดาผู้นำภาคธุรกิจ การประชุม ดาวอสไม่ได้คาดหวังเรื่องมูลค่าทาง ธุรกิจมากนัก แต่หวังที่จะสร้างเครือข่ายและโอกาสในการทำข้อตกลงนอกรอบการประชุมหลัก

    "การประชุมนี้เป็นเวทีที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการโชว์แนวคิด สร้างคอนเนคชั่น และทำให้แบรนด์ของคุณเป็นที่รู้จัก" เชน ลินเชฟสกี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) บริษัทพรีคอกไนซ์ของอิสราเอลซึ่งพัฒนาซอฟต์แวร์ป้องกันเหตุขัดข้องทางเทคนิคหรือคุณภาพในโรงงานกล่าว

    ลินเชฟสกี ซึ่งจ่ายเงิน 5 หมื่นฟรังก์สวิส เพื่อเข้าร่วมการประชุมดาวอส เสริม อีกว่า เวทีนี้ยังเป็นโอกาสสำหรับพบปะบุคคลที่จะไม่ได้พบเจอง่ายๆ อีกหลังจบการประชุม

    Source: กรุงเทพธุรกกิจ
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,823
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    wiHPshI-djreaVCJdwjUfBLxser0UkUA2IYqQYdyv87_xvWzdgXJiGqD5YsIAO4cInqJVCgg&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.png

    (Jan 20) 6 แบงก์กำไรปี'61 โต 3% ค่าฟีลด-หนี้เสียเพิ่ม-ตั้งสำรองหนี้สูง -ช่วงนี้แบงก์ทยอยโชว์ผล ประกอบการปี 2561 กันออกมาแล้ว ซึ่ง 6 แบงก์ ทำกำไรรวมได้ 112,932 ล้านบาท โต 3.15% จากปี'60 ขณะที่คุณภาพหนี้เสียยังเพิ่มขึ้น และตั้งสำรองหนี้เพิ่ม 7.78% (ดูตาราง)

    ผู้สื่อข่าวรวบรวมข้อมูล 6 แบงก์พาณิชย์ ซึ่ง 3 แบงก์ใหญ่ที่ประกาศงบฯออกมานั้น ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) มีกำไรลดลงจากปีก่อนราว 7% โดยมีรายได้จากการดำเนินงานจำนวน 1.38 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นราว 1.5% ซึ่งมีแรงส่งด้านรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่โตสูง 4.4% และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) อยู่ที่ 3.21% ลงเบา ๆ จากปี'60

    แต่ก็ถูกถ่วงจากเรื่อง 1.รายได้มิใช่ดอกเบี้ยที่ลดลง 4.7% จากประเด็นเดิม ๆ เรื่องการยกเลิกค่าธรรมเนียม (ค่าฟี) การทำธุรกรรมการเงินผ่านดิจิทัล การชะลอตัว ของธุรกิจประกันภัย และการลดลงของค่าฟี ที่เกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศใน ครึ่งปีหลัง และ 2.ค่าใช้จ่ายการดำเนินงาน ของธนาคารที่สูงขึ้นของการลงทุนต่อเนื่อง โครงการทรานส์ฟอร์เมชั่นแบงก์ ด้านหนี้ ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ขยับขึ้นสิว ๆ หนุนภาระตั้งสำรองลดลง โดยภาพรวมของ SCB ยังดูประคองกำไรเหนือระดับ 4 หมื่นล้านบาทได้ ถือว่ายืนสูงสุดในกลุ่มแบงก์อยู่

    นายอาทิตย์ นันทวิทยา กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SCB กล่าวว่า ปีนี้จะเห็นผลจากโครงการ transformation ที่จะทำให้สามารถขยายธุรกิจได้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะด้านการขยายฐานลูกค้า ซึ่งปีนี้ตั้งเป้าเพิ่มยอดผู้ใช้งานดิจิทัลเป็น 12 ล้านราย จากปีที่แล้ว 9 ล้านราย ส่วนการเติบโตของสินเชื่อรวมอยู่ที่ 5-7% ซึ่งเน้นสินเชื่อของลูกค้าบุคคล เช่น บัตรเครดิต และสินเชื่อธุรกิจขนาดเล็ก

    ฟากแบงก์กสิกรไทย (KBANK) โดดเด่น ด้วยปี'61 ทำกำไรโต 12% ซึ่งมาจากภาระตั้งสำรองหนี้เสียลดลงมากถึง 22% แต่ถ้าดูรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ 243,379 ล้านบาท ลดลงราว 2.9% ซึ่งเป็นผลจากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยร่วง 9% และค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ เพิ่มขึ้นเกือบ 3% เพราะหนักไปทางใช้เงินทำการตลาด ส่งผลให้อัตราส่วน ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ ต่อรายได้จากการดำเนินงานสุทธิ อยู่ที่ 43.96% ขณะที่รายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 4.6% โดยมี NIM อยู่ที่ 3.39%

    อีกแบงก์ใหญ่ทุนญี่ปุ่น "กรุงศรีอยุธยา" หรือ BAY กำไรโตเฉียด 7% โดยหลัก ๆ มีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นสูงมากถึง 10% ซึ่งมาจากสินเชื่อรายย่อยโตสูง 14% และสินเชื่อลูกค้าบรรษัท (JPC/MNC) และธุรกิจเอสเอ็มอี ที่พุ่งกระฉูด 19% และเกือบ 15% ตามลำดับ ที่น่าสนใจ คือ 1.แบงก์ยังสามารถทำรายได้มิใช่ดอกเบี้ยและค่าฟีเพิ่มขึ้นได้สูงอยู่ โดยเฉพาะค่าฟีโต 8% 2.การบริหารจัดการค่าใช้จ่าย ส่วนหนี้เสีย NPL ก็ขยับขึ้นมา เพราะสินเชื่อเช่าซื้อเพิ่มขึ้น จึงมีการตั้งสำรองหนี้เสียสูงขึ้น 14%

    โดย นายโนริอากิ โกโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BAY ตั้งเป้าหมายปีนี้ สินเชื่อโต 6-8% ซึ่งมีปัจจัยหนุนจากด้านการลงทุนที่เข้าสู่วัฏจักรขาขึ้น

    ส่วนกลุ่มแบงก์เล็ก แบงก์ทิสโก้ (TISCO) ปี'61 กำไรโตถึง 15% ซึ่งมาจากการรับรู้ กำไรพิเศษจากเงินลงทุนและการขยายธุรกิจ ขณะที่ด้านรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 9.1% และมี NIM คงที่อยู่ที่ 4.2% ด้านรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยรวม ขยายตัว 8.7% แต่เมื่อมาดู "NPL"พบว่าเพิ่มขึ้นถึง 23.3% อยู่ที่ 2.86% ขณะที่ตั้งสำรองหนี้กลับลดลง 12%

    นายสุทัศน์ เรืองมานะมงคลประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ กล่าวว่า ทิศทางดำเนินงานในปี'62 คาดว่าสินเชื่อรวมโต 4% โดยสินเชื่อจำนำทะเบียน ภายใต้แบรนด์ "สมหวัง เงินสั่งได้" ตั้งเป้าโต 30-40% โดยจะขยายสาขาอีก 60 แห่งเป็น 300 สาขาส่วนเช่าซื้อรถยนต์โต 4-5% โดยสินเชื่อบ้านจะอยู่ในระดับที่ทรงตัว เช่นเดียวกับสินเชื่อเอสเอ็มอี ด้านสินเชื่อรายใหญ่ คาดว่าจะโตได้ราว 5-10% ด้านค่าฟีโต 5% มาจากแบงก์แอสชัวรันซ์และธุรกิจจัดการกองทุน

    แบงก์แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ที่ปี'61 กำไรโต ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของกำไรจากเงินลงทุนและรายได้เงินปันผล และแบงก์ซีไอเอ็มบี ไทย ที่กำไรเหลือ 6.9 ล้านบาท ร่วงถึง 98% แต่ก็มีหนี้เสียลดลงมากถึง 10%

    มุมนักวิเคราะห์ นายณัฐชาติ เมฆมาสินผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ คาดว่า ปีนี้ สินเชื่อโตราว 5-7% หลัก ๆ มาจากโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐ ที่จะหนุนให้เอกชนข้ามาลงทุน ส่วนทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น น่าจะทำให้แบงก์มี NIM เพิ่มขึ้น และหลังตัวเลขกำไรกลุ่มแบงก์ปี'61 ออกมา อาจจะปรับประมาณการโดยรวมของปีนี้

    ที่เหลือยังต้องจับตาดูแบงก์ฮอตที่จะประกาศอย่างคู่แบงก์ที่จะควบรวมอย่าง "แบงก์ธนชาต (TBANK)แบงก์ทหารไทย (TMB)" และแบงก์ใหญ่ เจ้าปัญหา "แบงก์กรุงไทย" (KTB) รวมถึงแบงก์เจ้าสัวธนาคารกรุงเทพ (BBL)

    Source: ประชาชาติธุรกิจ

    ความคืบหน้า
    - แบงก์กรุงเทพ ปี 61 กำไรสุทธิ 3.53 หมื่นล้าน:http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/824643
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,823
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    https%3A%2F%2Fthaipublica.org%2Fwp-content%2Fuploads%2F2019%2F01%2FLottery_Final_Page_15-860x484.jpg
    (Jan 20) งานวิจัยทีเอ็มบี เจาะลึกพฤติกรรมคนเสพหวย – “หวย” คือ ความฝันที่แลกด้วยเงินล้านของคนไทย : ศูนย์วิเคราะห์ Customer Insights by TMB Analytics เผยผลการศึกษาพฤติกรรมการซื้อลอตเตอรี่และหวย(ใต้ดิน)คนไทยพบว่า หวยไม่ใช่แค่เรื่องของมวลชน กลุ่มพนักงานประจำและเจ้าของธุรกิจ ที่เป็นแรงขับเคลื่อนของประเทศ กว่า 9 ล้านคน เสพติดหวย ส่วนใหญ่มีครอบครัวมีภาระ ที่ซื้อลอตเตอรี่เพราะหวังรวยทางลัดและอยากเสี่ยงโชค หวยเป็นปัจจัยพื้นฐานแม้เศรษฐกิจไม่ดีก็ยังซื้อ

    “1 ใน 4 ของคนไทยซื้อลอตเตอรี่และหวย รวมเป็นเงินกว่า 2.5 แสนล้านบาทต่อปี” พูดง่ายๆคือคนไทยราว 20 ล้านคนซื้อลอตเตอรี่และเล่นหวยเทียบเป็นมูลค่าในแต่ละปีเท่ากับ 3 เท่าของมูลค่าซื้อกองทุน LTF และ RMF หรือมองในมุมของเศรษฐกิจเทียบเท่ากับเม็ดเงินลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินเลยทีเดียว

    แล้วทุกวันนี้คนไทยมองการซื้อลอตเตอรี่หรือการเล่นหวยอย่างไร เสียงสะท้อนจากสื่อโซเชียลส่วนใหญ่และผลสำรวจ พบว่าร้อยละ 55 มองหวยเป็นความฝันและความหวังที่ทำให้รวยและมีความเป็นอยู่ที่ดี แต่จาก สถิติชี้ว่าโอกาสที่จะรวยจากการถูกรางวัลนั้นน้อยมากไม่ว่าเป็นลอตเตอรี่หรือหวย โดยคนคาดหวังว่าจะถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 มีอยู่ 44% แต่โอกาสถูกจริงเน้นว่าเป็นเพียง 1 ในล้าน ส่วนด้านคนเล่นหวยคาดว่าจะถูก 2-3 ตัวบนล่างมีอยู่ถึง 78% แต่โอกาสถูกจริงคิดเป็น 0.4-2% เท่านั้น

    นอกจากนี้ข้อมูลจาก Google Trend ยังชี้ว่าในช่วง 15 ปีที่ผ่านมาคนไทย search คำว่า “เลขเด็ด” ซึ่งเป็นคำที่ฮิตทั่วไทยเพิ่มขึ้นถึงปีละ 18% ขณะที่การ search คำว่า “ฝากเงิน”เพิ่มขึ้นเฉลี่ยเพียงปีละ 9% และกระจุกอยู่แค่หัวเมืองเท่านั้น ซึ่งสอดคล้องกับข่าวที่ได้ยินเสมอว่าถ้ามีเลขเด็ดแพร่สะพัดไปเมื่อไรละก็ ทั่วทั้งประเทศแผงไหนๆ จังหวัดไหนก็ขายหมด และไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไรคนไทยก็ยังคงเสพติดหวยอย่างสม่ำเสมอ บ่งชี้จากในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกในปี 2552 รายจ่ายในการซื้อลอตเตอรี่และหวยของคนไทยอยู่ที่ 340 บาทต่อเดือนหรือคิดเป็น 2.1% ต่อรายได้ทั้งหมด เทียบกับในช่วงที่เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวในปี 2560 รายจ่ายในด้านนี้อยู่ที่ 452 บาทต่อเดือน หรือคิดเป็น 2.1% ต่อรายได้ทั้งหมด ซึ่งตอกย้ำความเชื่อที่ว่าหวยเป็นความหวังที่ทำให้รวยและมีชีวิตที่ดีขึ้น แม้ในสถานการณ์ที่รายได้ตกต่ำควรเก็บเงินเพื่อใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็น แต่ก็ยังต้องการเสี่ยงโชคแทงหวย หรือหวยจะมีบทบาทกลายเป็นสินค้าจำเป็นตามหลักเศรษฐศาตร์เข้าไปทุกที

    เมื่อเจาะลึกถึงหน้าตาผู้ซื้อลอตเตอรี่หรือหวยเป็นอย่างไร เราพบว่าความเชื่อที่ว่าคนรายได้น้อยเท่านั้นที่เล่นหวย ส่วนคนรวยเล่นหุ้นนั้นไม่จริง จากสถิติและผลสำรวจพบว่า คนไทยไม่ว่าจะรายได้มากหรือน้อยก็เล่นหวยทั้งนั้น โดยกลุ่มคนที่มีรายได้สูงกว่า 15,000 บาทต่อเดือน มีการซื้อลอตเตอรี่และหวยเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 680 บาท คิดเป็น 1.2% ของรายได้ ซึ่งมากกว่ากลุ่มคนที่มีรายได้น้อยกว่า 15,000 บาทต่อเดือนที่เฉลี่ยอยู่ที่ 350 บาท คิดเป็น 2.2% ของรายได้

    และไม่ว่าจะอายุมากหรือน้อย ก็เล่นหวยทั้งนั้น แต่หนักไปที่คนวัยสร้างครอบครัว ส่วนใหญ่เป็นมนุษย์เงินเดือนและเจ้าของกิจการ แถมเริ่มเล่นหวยตั้งแต่อายุยังน้อย จากสถิติและผลสำรวจชี้ว่า กลุ่มคนวัยสร้างครอบครัว (อายุ 35-55 ปี) หรือมีภาระรับผิดชอบเยอะ เป็นกลุ่มที่ซื้อลอตเตอรี่และเล่นหวยหนักที่สุดเฉลี่ยเดือนละ 500 บาท มากกว่าวัยทำงานและวัยเกษียณที่เฉลี่ยต่อเดือนราว 400 บาท โดยส่วนใหญ่เป็นมนุษย์เงินเดือนและเจ้าของกิจการ อย่างไรก็ตาม สถิติและผลสำรวจยังชี้ถึงประเด็นที่น่าตกใจว่า 10% ของจำนวนนักเรียนและนักศึกษาเล่นหวย โดยซื้อหวยต่อเดือนเฉลี่ยประมาณ 187 บาท เรียกว่าเริ่มเล่นหวยกันตั้งแต่ยังไม่มีรายได้ สาเหตุที่ซื้อเพราะมีแรงจูงใจมาจากผู้ปกครองและคนรอบข้าง และสื่อโซเชียล

    ทุกวันนี้มนุษย์เงินเดือนและเจ้าของธุรกิจเสพติดการเล่นหวยอยู่ในระดับใด? ที่เราเซอร์ไพรส์คือ 50% ของมนุษย์เงินเดือนและเจ้าของธุรกิจ หรือประมาณ 12 ล้านคนเล่นหวย โดยหากแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มตามลักษณะการเล่นหวย เราพบว่า 26% “เล่นขำๆ” คือ เล่นสนุกไม่จริงจัง มีความสุขจากการได้หวังเงินรางวัล 63% “ชอบหวย” เพราะชอบลุ้นหรือเสี่ยงโชค มีความสุขจากการได้หวังเงินรางวัล และที่น่าสนใจคือ 11% “ติดหวย” ชอบลุ้นหรือเสี่ยงโชค มองว่ามูลค่าของเงินรางวัลสูงยังไงก็คุ้มกับเงินที่ซื้อหวย จึงซื้อแบบไม่ได้คิด ทั้งนี้เราอาจสรุปได้ว่า มนุษย์เงินเดือนและเจ้าของธุรกิจส่วนใหญ่ หรือราว 9 ล้านคน ชอบลุ้นรางวัลไปจนถึงเสี่ยงโชคเพื่อรวยขึ้น

    เมื่อเจาะลึกถึงพฤติกรรมการซื้อหวยของกลุ่มคน “ชอบหวย” พบว่ากว่า 80% ซื้ออย่างน้อยเดือนละครั้ง เฉลี่ยเดือนละ 420 บาท และซื้อเพิ่มขึ้นจากครั้งแรกของการเล่นหวยราว 18% ยิ่งไปกว่านั้น เราพบว่า กลุ่มคน “ติดหวย” จะซื้อทุกงวด หรือ 24 ครั้งต่อปี จ่ายค่าหวยมากกว่ากลุ่ม “ชอบหวย”ถึงสองเท่า แถมยังซื้อเพิ่มขึ้นจากครั้งแรกถึง 26% ทั้งนี้หากกลุ่มคนเหล่านี้ซื้อหวยต่อเนื่อง 50 ปี สิ่งที่พวกเขาเสียไปเทียบเท่าได้กับ รถยนต์ City Car หรือบ้านถึง 1 หลัง เลยทีเดียว สะท้อนให้เห็นว่า หวย คือความฝันที่แลกด้วยเงินล้านของคนไทยจริงๆ

    นอกจากนี้เราได้เจาะลึกไปถึงสาเหตุของพฤติกรรม โดยพบว่า ทั้งคน “ชอบหวย” และคน “ติดหวย” มองเงินที่ซื้อหวยเป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องมี เพราะชอบเสี่ยงโชค แต่ต่างกันตรงที่ คน “ชอบหวย” มีการวางแผนทางการเงิน โดยกันเงินเพื่อซื้อหวย ในขณะที่คน “ติดหวย” ซื้อหวยแบบไม่ได้คิด คือ หากได้เงินมาก็ใช้ซื้อหวยทันที และอาจยอมลดเงินซื้อหวยส่วนหนึ่งเท่านั้น และเพื่อทำความเข้าใจมากขึ้น เราพบว่า คน “ติดหวย” จะนำเงิน(ถ้าถูกรางวัล) จ่ายหนี้ ต่างจากคน “ชอบหวย” ที่เก็บไว้ใช้ในยามจำเป็น และให้ครอบครัว จึงเป็นข้อยืนยันว่า หวยคือความหวังที่ช่วยปลดล็อดให้มีความเป็นอยู่ที่ดี

    อย่างไรก็ตาม จากผลสำรวจสัดส่วนในการออมเงิน คน “ชอบหวย” ส่วนใหญ่ราว 66% มีเงินออมเฉลี่ยมากกว่า 5,000 บาท ขณะที่เงินออมเฉลี่ยต่อเดือนของคน “ติดหวย” นั้นส่วนใหญ่น้อยกว่า 5,000 บาท โดยสรุปแล้ว มนุษย์เงินเดือนและเจ้าของธุรกิจ ที่ “ชอบหวย” และ “ติดหวย” หากนำเงินเหล่านี้ไปออมเพิ่มขึ้น หรือลงทุนในทางเลือกอื่น ที่มีผลตอบแทนและความเสี่ยงอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ มีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารอย่างทั่วถึง โปร่งใส รวมถึงการมีผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำ จะทำให้มีรายรับเพิ่มขึ้น และอาจนำไปใช้จ่ายสิ่งจำเป็น เช่น ประกันสุขภาพ รถยนต์ หรือ บ้าน ได้โดยไม่ต้องหวังลุ้นเสี่ยงโชคทุกวันที่ 1 และ 16 ของแต่ละเดือนอีกต่อไป

    “ศูนย์ Customer Insights by TMB Analytics เป็นศูนย์วิเคราะห์มุมมองใหม่ๆ ด้านการพฤติกรรมทางการเงิน เพื่อสร้างการตระหนักรับรู้ ความเข้าใจ เพื่อนำไปสู่การวางแผนการเงินส่วนบุคคลให้เหมาะสมยิ่งขึ้น” นำเสนอผลการศึกษาวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเงินของคนไทยตลอดเส้นทางทั้งการออม การใช้จ่าย การลงทุน ตลอดจนการป้องกันความเสี่ยง ซึ่งสามารถสะท้อนอะไรหลายๆ อย่างเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้ชีวิต รวมถึงปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อพฤติกรรมในด้านต่างๆ

    Source: ThaiPublica
    https://thaipublica.org/2019/01/tmb-lottary-research/
     

แชร์หน้านี้

Loading...